วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ชัยภูมิ

“อ้าว..!! นายแม็กซ์อยู่ไหนเนี่ย เค้าไม่รอเราแล้วนะรถตู้ออกไปแล้ว” เสียงของท่านพี่หนึ่งดังผ่านโทรศัพท์มือถือของกระผมเข้ามา ผมก็เหยียบเลยครับรู้ตัวว่าสายแล้ว พอมาถึงก็รีบขนของลง (อย่างเยอะ) เปิดประตูเข้าไปเห็นทุกๆคนนั่งคุยกันอย่างสบายอารมณ์อยู่ เครียดเลยผมอุตส่าห์เหยียบมาซะเร็ว พี่ๆก็น่ารักครับเพราะขนของขึ้นรถกันหมดแล้วเหลือแต่ของผม ฮ่าๆ แต่ก็ยังไม่รีบออกเดินทางครับก็สนทนากันอยู่พักหนึ่ง และทุกๆคนก็ได้ไปไหว้เจ้าที่ประจำบริษัทเพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนเดินทาง การเดินทางในครั้งนี้ทีมอาจารย์วุฒิพงศ์และอาจารย์ฌานสิทธ์ต้องเดินทางไปในเส้นทางเดียวกันคือถนนสายมิตรภาพครับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน)ของไทยนั่นเอง การจัดอบรมในครั้งนี้เราต้องไปกันทีมละ 5 จังหวัดเลยครับ หนักหนาทีเดียวแต่อย่างไรก็ตามทีมงานของเราแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพกันอยู่แล้วเลยไม่ต้องห่วงครับ

ระหว่างทางที่ไปนั้นผมได้สังเกตุเห็นบริษัทปูนบริษัทหนึ่งได้ติดป้าย CSR ไว้ด้วยครับ ก็หวังว่าเค้าจะทำจริงๆอย่างที่เค้าติดป้ายครับ คงไม่ใช่ทำตามกระแสนะ เราได้รวมตัวกันอีกครั้งที่ร้านอาหารสวนเมืองพรครับ ทีมของอาจารย์ฌานสิทธ์อยากจะมาชมวิวทิวทัศน์อันงดงามและอาหารอร่อยของที่นี่ เนื่องจากได้ยินทีมของเรานั้นพูดถึงและเก็บภาพไปให้ดู สั่งอาหารกันมาเหมือนอดอยากครับ ทุกๆท่านก็โซ้ยกันเต็มที่ไม่มีการคำนึงถึงภาพลักษณ์ใดๆทั้งนั้น ส่วนกระผมเองไม่ค่อยจะหิวครับเลยทานไม่ค่อยเยอะนัก เพราะผมได้ทานข้าวเหนียวกับก๋วยเตี๋ยวมาก่อนแล้ว เหอๆๆ ว่าไปแล้ววันนี้ที่ร้านอาหารมีนางแบบหน้าตาดีกับแฟนหนุ่มช่างภาพมาถ่ายรูป เธอช่างกล้ามากครับท่าแต่ละท่านี่ยอดจริงๆ แหม่..ไอ้ผมก็ไม่ได้ติดกล้องลงไปว่าจะไปขอถ่ายเป็นที่ระลึก (กลัวโดนต่อยตกเขา) เธอถ่ายรูปตั้งแต่พวกผมเข้ามา จนสั่งอาหาร จนอาหารหมด จนขึ้นรถจะกลับ กะว่าเอาให้คุ้มทีเดียว ที่ร้านอาหารนี้ก็มีการเปิดเป็น Resort ด้วย เพราะอากาศที่ค่อนข้างดี เย็นสบาย และบางท่านที่มาก็ขับรถขึ้นเขาใหญ่ไปถ่ายรูปนกป่า ถ่ายธรรมชาติต่างๆ เป็นการพักผ่อนที่ดีมากครับ ผมก็อยากจะมาแบบนี้บ้างครับ แต่คงต้องเก็บเงินซื้อกล้องดีๆก่อน (เบิกได้ไหมครับ) ไม่ดีกว่าครับเพราะมีหลายๆคนชอบหาว่าผมงก

เราได้มาถึง “โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท” จ.ชัยภูมิ จนได้ครับ เป็นโรงแรมที่สวยใช้ได้เลยครับแถมยังมีรูปปั้นสัตว์ต่างๆมากมายทั้งม้า นก นกยูง ปลา วัว เต็มไปหมดครับ ต้นไม้ก็เยอะด้วย หลังจากเอาสัมภาระแยกไว้ตามห้องกันเรียบร้อยก็ออกรถอีกครั้งเพื่อจะไปหาอะไรรองท้อง และแล้วก็ไม่ได้ทานครับแต่ได้หนังสือ Tab Guitar Classic มาแทน (ดีใจๆ) คิดไม่ถึงครับว่าที่ต่างจังหวัดจะมีหนังสือที่ผมต้องการ เพราะที่กรุงเทพฯห้างไหนๆก็ไม่เห็นจะมีเลย หาได้ยากมาก เป็นหนังสือกีต้าร์ครับ ที่เป็นการอ่านแบบ Tab ไม่ใช่ตัวโน๊ตครับ เพราะผมอ่านแบบตัวโน๊ตไม่เป็น อาจารย์วุฒิพงศ์ก็ให้ความสนใจเพราะท่านเองก็เป็นอีกคนที่ชอบเล่นกีต้าร์เช่นเดียวกัน แต่ก็เล่นไปแบบขำๆเวลาว่างครับไม่ได้เก่งอะไร

เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าดังขึ้นแต่ผมยังไม่อยากจะตื่นเลย เตียงนอนของโรงแรมที่นี่นิ่มมากๆ แต่ก็ต้องถีบตัวเองขึ้นครับเพราะเรามีหน้าที่รออยู่ การทักทาย เปิดวีดีทัศน์ และเล่นเกมแจกรางวัล เป็นไปเหมือนในทุกๆครั้งครับ แต่วันนี้ทุกๆท่านไม่ว่าจะเป็นผู้อบรมหรือทีมงานเราก็ดูเหมือนอยู่ใน Slow Mode ครับ อาจจะเป็นเพราะวันแรกของสัปดาห์รึป่าวก็ไม่แน่ใจครับ แต่การบรรยายของอาจารย์ก็เป็นไปอย่างดีเยี่ยมเช่นเคย สังเกตุได้จากการตั้งใจฟังของผู้มาอบรม ถึงจะไม่ตอบมากแต่ตาก็มองไปในทางเดียวกันดูให้ความสนใจ (คงไม่ได้หลับในมั้ง)

Exercise Session ในช่วงเช้าท่านแรกที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ท่าทางที่มั่นใจมากได้กล่าวว่าตนนั้นเป็นผู้มีความสัตย์ มีความซื่อสัตย์แล้วก็จะได้ความสบายใจ ในการกระทำทุกๆอย่างที่ไม่เสแสร้งโกหกก็จะทำให้เราสบายใจที่สุด และอยากเห็นการไม่ดำเนินกิจการที่สร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อส่วนรวม เนื่องจากปัจจุบันการเห็นแก่ตัวของมนุษย์มีมากขึ้นเรื่อยๆ อยากให้คนในสังคมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้ความเห็นแก่ตัวในแต่ละบุคคลสร้างความลำบากให้ผู้คนรอบข้าง ท่านต่อมามีความสวามิภักดิ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือการเป็นคนดี ทำความดีและเชื่อฟังคำสอนของท่าน และได้เลือกการเป็นพลเมืองบรรษัทในด้านไม่สร้างความเสียหายต่อส่วนรวม คือ ถ้ากิจการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น ผู้คนมักจะเดือดร้อนและส่งผลให้ประเทศชาติเดือดร้อนไปด้วย ส่วนอีกท่านก่อนแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารว่างนั้นได้เลือกในหัวข้อที่ตัวเองได้ทำมากที่สุดคือเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพโดยชอบธรรม ต้องทำงานสุจริต มีความพยายามอดทนต่อความลำบากต่างๆ เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และประกอบกิจกรรมทางศาสนาด้วย อยากให้องค์กรประกอบธุรกิจเพื่อแสวงหากำไรโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ถ้าทำได้บุคคลรอบข้างจะได้ประโยชน์ร่วม
กัน มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสก็น่าจะยิ่งดี

ในการรับประทานอาหารกลางวันก็มีการสนทนาในประเด็นต่างๆขึ้นครับ ทางผู้อบรมก็ให้ความสนใจว่าเราจะไปที่จังหวัดไหนบ้าง ทั่วประเทศเลยรึป่าว โครงการที่ได้ระดมสมองไปนั้นจะเกิดขึ้นได้จริงไหม เกิดขึ้นไปถึงระดับไหน มีจังหวัดไหนบ้างที่โครงการประสบความสำเร็จและได้เกิดขึ้นจริง ทางอาจารย์วุฒิพงศ์ก็ได้ถามบ้างในเรื่องอาหารอะไรขึ้นชื่อของที่นี่บ้าง ท่านช่างเป็นห่วงปากท้องของทีมเราเสียจริงๆ เหอๆ แขกท่านหนึ่งก็ได้แนะนำ “หม่ำ” ไปลองเลยนะ แถบนี้อร่อยทุกร้าน มีร้านเป็นร้อยก็อร่อยหมดเลยลองซื้อร้านละชิ้นก็ได้ ฮ่าๆๆ (ผมก็ไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร) ช่างดีจริงๆครับมีความเป็น CSR มากเลยในด้านการกระจายรายได้ให้ครบทุกร้าน

มาถึงกิจกรรม CSR เชิงระบบท่านแรกอยากจะเห็นองค์กรพัฒนาในเรื่องการเข้าร่วมในความริเริ่มทาง CSR โดยสมัครใจ ต้องมีการขับเคลื่อนแนวความคิด รวมกลุ่มกันคิดและปฏิบัติด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จัดอบรมและส่งเสริมความรู้ ชุมชนเกิดการเรียนรู้และมีความคิดในการพัฒนาสิ่งต่างๆ สามารถรวมกลุ่มจากชุมชนต่างๆมาช่วยกันในด้านเดียวไม่แตกแยกความคิด ท่านต่อมาอยากให้เพิ่มความเข้าใจในเรื่อง CSR โดยการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่องค์กร มีการเชิญวิทยากรมาให้ความรู้ เชิญผู้เกี่ยวข้องมาเข้าร่วมอบรม รอดูผลระยะยาวขององค์กรหลังจากการอบรมและทำการสรุปผลเป็นระยะๆ หวังว่าผู้ร่วมอบรมจะได้ความรู้และนำไปเผยแพร่ให้กับองค์กรต่างๆต่อไป อีกท่านก็อยากให้มีการจัดอบรมเพิ่มความเข้าใจในเรื่อง CSR เช่นเดียวกัน ต้องจัดการอบรมไปในแนวความคิดใหม่ๆที่สามารถประยุกต์ใช้กับองค์กรได้ จะก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของทุกคนภายในองค์กรและเกิดความสามัคคี

วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์วาสนา คำไทยและอาจารย์อัญชลี ชัยศรี จากมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิซึ่งท่านกล่าวว่า “ได้ความรู้หลักๆเลยในเรื่องบริบาล คิดว่าไม่น่าจะมีใครรู้เลยถ้าไม่ได้มาเข้าอบรมในวันนี้ ก็รู้สึกดีที่มาจัดให้ที่นี่ ก็เป็นส่วนหนึ่งให้ภาครัฐและเอกชนมารวมกัน ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันมีการแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้กัน คิดว่าหน้าที่พลเมืองสามารถนำไปประยุกต์ใช้สอนได้ ส่วนมากรู้แต่ทฤษฏีและปฏิบัติยังไง แต่เค้าไม่รู้ว่าการที่จะทำธุรกิจให้มีคุณธรรม จริยธรรมนะทำยังไง โดยเราก็จะสอนเค้าได้เพื่อเค้าจะได้ไปใช้ในเวลาที่เค้าเรียนจบ”
และก็มาถึงกิจกรรมที่รอคอยครับเราได้ “โครงการเครื่องจักรสานเอนกประสงค์” ใช้วัสดุจากต้นกก ผักตบ ไผ่และหวาย นำมาทำเป็นรูปแบบใหม่ๆ แต่เน้นด้านรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งกลุ่มสมาชิกในหมู่บ้าน ฝึกอบรมและทำผลิตภัณฑ์ จัดการตลาด จัดตั้งสหกรณ์ ลง Web Page ประชาสัมพันธ์ผ่านวิทยุชุมชนและจังหวัด ปริมาณการผลิตต้องออกมาตามแบบที่ตลาดต้องการ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะเป็นรายได้เสริม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เกิดความสามัคคีในชุมชน ทำให้ชุมชนสามารถทำบัญชีครัวเรือนรายรับรายจ่ายและประหยัดมาก
ขึ้น มีการจัดการทรัพยากรที่เหลือมาทำให้เกิดประโยชน์

โครงการ Carbon Bank” ปลูกฝังจิตสำนึกให้คนในจังหวัดรักต้นไม้และเห็นคุณค่าของต้นไม้ เริ่มกิจกรรมรณรงค์การปลูกต้นไม้ในพื้นที่วางเปล่า จดทะเบียนต้นไม้ที่ปลูกโดยให้ท้องถิ่นและชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบ สร้างแรงจูงใจในการปลูกต้นไม้ ขับเคลื่อนต้นไม้ให้เป็นหลักประกัน (Tree Credit) โดยรัฐบาลให้กู้ร่วมกับต้นไม้เป็นตัวการันตีผ่าน Credit Carbon เนื่องจากประเทศเรามีพื้นที่ว่างมากจากที่ของพวกคนร่ำรวย แทนที่จะปล่อยให้ที่ว่างเปล่ามีหญ้าขึ้น ก็ตั้งเป็นนโยบายเก็บภาษีพื้นที่ว่างเปล่ายกเว้นแต่จะสร้างเป็นต้นไม้ ถ้ามีการสร้างต้นไม้แทนที่จะเป็นโรงงานหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภาษีก็จะลดลงตามเปอร์เซนต์ที่นโยบายตั้งไว้ จะมีไม้เศรษฐกิจเป็นมรดกให้ลูกหลาน เพิ่มหลักประกันให้กับบุคคล โดยรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน ประเทศไทยก็จะไม่ขาดดุล Carbon Credit ทุกๆคน ทุกภาคส่วน จะมีแต่ได้รับสิ่งดีๆ

โครงการอนุรักษ์ป่าชุมชน” ดูแลป่าที่มีอยู่เดิมและปลูกเพิ่มในส่วนที่ต้องปรับปรุง จัดหาพื้นที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง มีการเสนอโครงการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อบรมโครงการอนุรักษ์ป่า โดยเริ่มจากชุมชนตัวอย่างและต้องปฏิบัติจริง ติดตามและสรุปผลเป็นระยะๆ เริ่มจากหมู่บ้านและขยายไปเรื่อย ถึงจะเป็นจุดเล็กๆแต่ก็เป็นจุดเล็กที่ยิ่งใหญ่ จะได้มีแหล่งอาหารเพิ่มขึ้นในชุมชน เป็นแหล่งเรียนรู้ผู้ที่ต้องการศึกษาที่สนใจเกี่ยวกับธรรมชาติ มีป่าเพิ่มขึ้น ลดภาวะโลกร้อน เกิดความสามัคคีในชุมชนและเพิ่มสมดุลของระบบนิเวศน์ด้วย

สำหรับในวันนี้อาจารย์รจนา ป้องนู สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตชัยภูมิได้กล่าวกับผมทิ้งท้ายไว้ว่า “ได้รับความรู้ เป็นความรู้ใหม่เลย เดิมไม่มีความรู้เรื่อง CSR เลย และได้มารู้ว่า CSR เนี่ยะเป็นการสร้างความรับผิดชอบให้กับบุคคลให้มีความสำนึกต่อหน้าที่ ความมีน้ำใจและเป็นนักจิตอาสา ทำสิ่งต่างๆด้วยความเต็มใจและบริสุทธ์ใจ ไม่คิดหวังผลตอบแทน เช่นในสายงานเรื่องหน้าที่พลเมืองในรอบเช้านั้น โดยไปนำชุมชนออกกำลังกายให้มีสุขภาพแข็งแรงโดยไม่คิดค่าตอบแทน ใช้ความรู้ของนักศึกษาไปทำให้เกิดประโยชน์ คิดว่าดีมากที่มาจัดให้ที่นี่ เป็นการปลูกจิตสำนึกให้กับผู้ที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้ ให้คนได้รู้ว่าเราไม่ได้อยู่เพื่อเงินเพียงอย่างเดียว พลเมืองทุกคนน่าจะมีน้ำใจ ช่วยเหลือเผื่อแผ่คิดว่าสิ่งดีๆที่เราให้ไปก็จะกลับมาหาเรา ซึ่งเราก็ไม่ได้คาดหวัง ในเรื่องหน้าที่พลเมืองจริงๆแล้วมันสอดแทรกอยู่ในวิชา แต่เราไม่ได้ชี้ชัดนัก ครูส่วนใหญ่จะสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมลงไปอยู่แล้ว และต้องมีการตามผมด้วยไม่ใช่ว่าสอนไปอย่างเดียว โดยไม่รู้ว่าเค้าเข้าใจในเรื่องนี้ไหม มันน่าจะเป็นแบบ Two Way เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาเค้าจะได้มีแนวคิดในเรื่องการเสียสละในสังคมโดยไม่คิดเรื่องเงินเป็นหลัก”

มีผู้ให้ความสนใจในงานโครงการ CSR Campus ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดนครราชสีมา ที่จะมีขึ้นกลางเดือนกันยายนนี้ การบรรยายได้จบลงอย่างเป็นกันเอง ผมได้ถามกับอาจารย์ว่าบุคลิคของคนที่นี่ดูเงียบจัง อาจารย์จึงอธิบายว่าคนแถบนี้ไม่ค่อยจะพูดมากนักแต่จะใช้สายตามองมาว่าสนใจมากน้อยขนาดไหนในการรับฟังการบรรยาย โหว...ประสบการณ์ครั้งนี้ผมจะจำไว้ครับว่ายังมีคนอีกหลายรูปแบบที่ผมไม่เคยพบเจอ และการเข้าใจในตัวของแต่ละคนก็ไม่ง่ายเลยครับ

หลังจากแพคของกันแล้วเราได้ออกเดินทางกันต่อโดยแวะซื้อลูกชิ้นอุดหนุนร้านริมทางลองท้องซักหน่อยครับ และก็ไม่ลืมสิ่งที่ผู้มาอบรมแนะนำมาครับ “หม่ำ” นั่นเองครับ จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าทำมาจากส่วนไหนของหมูกันแน่ ครับทีมของเราจะไปกันต่อที่ไหนนั้น ถ้าคุณไม่เข้ามาอ่าน “คุณจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง” แล้วพบกันครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. ช้าแต่ชัวร์ใช่มั้ยค่ะ เพราะว่าครั้งนี้ไม่เห็นลืมของเลยค่ะ

    เห็นว่าซื้อหนังสือ Tab Guitar Classic มาด้วย
    แล้วจะมีโอกาสได้ฟังเสียงกี่ต้าร์กับเค้าบางหรือป่าวล่ะเนี๊ยะ:)


    แต่ละโครงการเน้นในเรื่องของการอนุรักษ์ป่าทั้งนั้นเลย

    ถ้าทำได้โลกของเราคงร้อนน้อยลงนะคะ...

    ตอบลบ
  2. กิกิ....
    ทานข้าวอร่อยมั้ยเอ่ย การเดินทางดูสนุกจังเลยอ่ะ อยากไปด้วยจัง อิอิ
    ว่าแต่ตอนนี้คุณแม็กซ์ คงไม่เหนื่อยในการเดินทางละ มีของเล่นใหม่ ก็ดีนะจะได้ฝึกฝนตัวเอง ถือว่าใช้โอกาสจากการเดินทางไปทำงานสร้างประโยชน์ให้ตัวเองได้ดีมาก
    สำหรับโครงการที่ชัยภูมิให้ความสำคัญกับป่าไม้ดีค่ะ ขอให้ทำได้ทุกโครงการนะคะ จังหวัดเรา โลกของเรา ก็จะได้สวยงามร่มเย็น ลดโลกร้อน

    ตอบลบ