วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2552

กำแพงเพชร

จากจังหวัดตากจะมุ่งหน้าสู่ที่หมายต่อไปนั้น ทีมเราได้แวะทานข้าวเติมพลังกันที่ร้านอาหารริมแม่น้ำปิง สเต็กหมูจิ้มแจ่วของที่นี่อร่อยมากครับ เหมือนคอหมูย่างเลย ฮ่าๆ แต่ตั้งชื่อซะหรู แต่ก็อร่อยจริงๆครับ หลังจากที่เราทานกันเรียบร้อยทุกท่านก็ขึ้นรถเพื่อจะเดินทางต่อ ส่วนผมก็บังเอิญได้เจอรถคู่ใจครับ จึงไม่ขอไปกับรถตู้แต่จะขับรถไปเอง ฮ่าๆๆ ดูรูปแล้วอาจจะหมั่นใส้ผมเล็กๆ ผมล้อเล่นนะครับ ความจริงแล้วผมขับมอเตอร์ไซด์ธรรมดายังไม่เป็นเลย ตอนผมยังเด็กมากผมเคยสัญญากับแม่บุญธรรมว่า ถ้าผมโตเมื่อไรผมจะขับมอเตอร์ไซด์พาท่านเที่ยวให้ทั่วเลย ท่านก็บอกมาว่าท่านไม่เอาด้วยหรอกเพราะมันเป็นเนื้อหุ้มเหล็ก ท่านคงไม่เสี่ยงไปกับผม แต่ผมคงไม่มีโอกาสแล้วครับเพราะผมขับไม่เป็น

การเดินทางค่อนข้างจะลำบากครับเพราะถนนไม่เรียบเอาซะเลย จึงใช้เวลาค่อนข้างนานทั้งๆที่ก็ไม่ไกลนัก เราได้เดินทางมาถึง จังหวัดกำแพงเพชร ณ โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว ในเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆเห็นจะได้ หลังจากที่แยกย้ายเข้าห้องกันแล้ว อาจารย์ก็อุทานมาว่า เฮ้ย...ที่นี่แถมมะม่วงน้ำปลาหวานให้ด้วย ฮ่าๆ ในตู้เย็นมีจานมะม่วงที่ปลอกแล้วกับถ้วยน้ำจิ้มอยู่ ผมก็งงจึงเรียกแม่บ้านขึ้นมาเก็บไป ไม่ได้กลัวอะไรนะครับ แต่กลัวอาจารย์ทนไม่ไหวกินหมด ผมได้นั่งทำสรุปไปเรื่อยจนผ่านไปเกือบชั่วโมง ก็คิดได้ว่าจะไปเอา Mp3 ที่อัดเสียงงานสัมมนา จากพี่ๆทีมงานสาวของเราผมจึงเดินไปเปิดประตู ว๊าก! ผมอุทานออกมาเพราะตกใจ เนื่องจากแม่บ้านเอาน้ำขึ้นมาให้ครับ เธอบอกว่าเคาะประตูแล้วแต่ไม่มีคนมาเปิดซักที ผมจึงคิดว่าถ้าผมไม่ออกไปเปิดทั้งคืนนี่ เธอจะยืนรอถึงเช้าไหมเนี่ยะ ก็ขอบคุณเธอไปครับ โรงแรมที่นี่ดีจริงๆครับเพราะว่าให้เล่น Internet ฟรีด้วย เหอๆๆ งานผมกว่าจะเสร็จเลยดึกเลย ก็นั่งเล่น Guitar กับดูรายการ Tonight Show จนหลับไปครับ

ตื่นเช้าวันต่อมานาฬิกาปลุกแล้วแต่ผมกดปิดไปประมาณ 3 รอบ เพราะหลับสบายเหลือเกินครับอาจเป็นเพราะผมนอนดึกก็ได้ อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็เรียกอาจารย์ตื่น ได้เปิดดูข่าวเหมือนทุกๆวัน เห็นได้ว่าปัญหาจากผักตบชะวาที่จังหวัดนครปฐมมันทำให้คนเดือดร้อนมากจริงๆ โตเร็วมากๆ ในเวลาแป๊บเดียวขยายใหญ่กว่าเนื้อที่สนามฟุตบอลได้ แถมยังหนาอีกด้วย สามารถลงไปยืนได้โดยไม่จมด้วย อะไรจะขนาดนั้นที่ผมเคยเห็นมาก็ไม่ใหญ่โตขนาดนั้นเพราะบ้านผมก็ติดลำคลองเหมือนกัน ผมไม่คิดว่ามันจะเน่าและสร้างความเดือดร้อนได้ขนาดนั้น

เราได้มารวมตัวกันที่ห้องสัมมนาที่ “ห้องเยาวมาลย์” ครับวันนี้ผมรู้สึกว่าแอร์เย็นจริงๆ หรือเพราะฝนตกลงมาเมื่อคืนก็ไม่ทราบ การกล่าวเปิดงานและการบรรยายเริ่มขึ้นอย่างราบรื่นเช่นเคย วันนี้มีพี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง ตอบทุกคำถามเลยเหมือนมาล่ารางวัลประมาณนั้น เพราะเปิดสารคดี Home ให้ดูเธอก็จดข้อมูลไปหลายหน้าแล้ว และก็ได้ตอบคำถามได้รางวัลไป 2 ชิ้น แล้วด้วยในช่วงเช้า

กิจกรรมหน้าที่พลเมืองวันนี้ ได้มีผู้ที่มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรม มีความตั้งใจในการทำงาน รักความก้าวหน้าของงานที่ทำ รักองค์กร และรักษาผลประโยชน์ขององค์กร ประหยัด เช่น พลังงานไฟฟ้า น้ำประปาในสำนักงาน อยากให้องค์ในจังหวัดนั้นเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับงานดำเนินอย่างถูกต้องโปร่งใส เป็นต้น ท่านที่สองได้เลือกในหัวข้อเป็นผู้มีความพากเพียรและเป็นผู้มีความสัตย์ จะได้ทำให้ครอบครัวและคนที่อยู่รอบข้างมีความสุข สิ่งที่ทำไปแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น อยากให้องค์กรก้าวหน้าในธุรกิจและมีธรรมาภิบาลในการทำงานไม่เห็นแก่ตัวและประโยชน์ส่วนตน และท่านสุดท้ายก่อนจะไปเบรคได้พูดถึงเรื่องศีลธรรม ได้พูดว่าเมื่อก่อนก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้นัก แต่มีบางอย่างทำให้เปลี่ยนความคิดไป ควรจะศึกษาและฝึกปฏิบัติธรรมและกรรมฐาน ประกอบด้วย ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ตามลำดับ แต่จะศึกษาจากหนังสือเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลงมือทำ เพื่อลดความตระหนี่ในใจ สมาธิเกิดจากการทำจิตให้สงบ เมื่อเกิดสมาธิปฏิบัติไปเรื่อยจะเกิดปัญญารู้แจ้งตามมา ทำความดีคือทรัพย์ภายในที่เราสามารถนำติดตัวไปได้ ทั้งยังสามารถแบ่งให้ผู้อื่นได้ ก็จะทำให้คนรอบข้างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สังคมก็จะมีแต่คนดี มีแต่กัลยาณมิตร ฟังท่านที่สามนำเสนอจบผมแทบจะบรรลุเลยครับ เหมือนมาฟังเทศน์เลย แต่ก็เป็นคำสอนที่ดี
ครับ

ในวันนี้เองครับ เป็นอะไรที่โชคดีมากเลย บังเอิญมีผู้มาอบรมท่านหนึ่งหน้าตาคล้ายกับเพื่อนผมในสมัยเรียนเป็นอย่างมาก ในตอนเช้าผมก็ยังไม่แน่ใจนัก แต่หลังจากที่ได้เช็คชื่อแล้วผมก็คิดว่าใช่แน่นอนเลย จึงเดินเข้าไปทักอย่างสุภาพ โดยการถามว่าจบมัธยมมาจากไหน จบมาจากโรงเรียนทิวไผ่งามที่เดียวกับผมเลย ผมจึงถามไปว่าจำผมได้ไหม ฮ่าๆๆ เพื่อนผมกลับจำไม่ได้จนผมบอกชื่อ ท่านจึงได้อ๋อครับ เพื่อนผมคนนี้บอกว่าผมเปลี่ยนไปมากเลย โดยเฉพาะความสูงที่เท่ากัน T-T เมื่อตอนยังเด็กผมเป็นคนตัวเตี้ยมากครับ ยืนหัวแถวมาตลอดตั้งแต่ ป.3 - ม.3 เลย หลังจากนั้นผมก็ได้ไปเรียนต่อยังสถาบันอื่นและไม่ได้พบกันเลยจนถึงตอนนี้รวมแล้วก็ประมาณ 10 ปี เห็นจะได้ ก็ยืนคุยและถามสาระทุกข์สุขดิบกัน ว่าเรียนจบที่ไหนเป็นไงทำงานอะไรแล้ว ก็รู้สึกดีใจมากครับ

มาถึงช่วงของกิจกรรม CSR เชิงระบบ โดยท่านแรกอยากให้มีการเข้าร่วมในความริเริ่มทางซีเอสอาร์โดยสมัครใจ จัดกิจกรรมพัฒนาชุมชนเพื่อสังคม จัดกลุ่มเพื่อการพัฒนาชุมชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสภาพแวดล้อมปลอดภัยจากสิ่งเสพติดและกิจกรรมดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อสังคมและนักศึกษา ท่านที่สองอยากให้เพิ่มความเข้าใจในเรื่อง CSR อยากให้มีการจัดกิจกรรมระหว่างโรงเรียนกับนักเรียน เพื่อได้แลกเปลี่ยนปัญหาหรือข้อเสนอแนะต่างๆ นักเรียนกับอาจารย์จะเข้าใจกันมากขึ้น สามารถปรึกษาหารือกันได้ ท่านที่สามอยากให้มีความสัมพันธ์ของคุณลักษณะองค์กรกับเรื่อง CSR จัดอบรมสร้างความสัมพันธ์ให้กับบุคลากร มีกิจกรรมระหว่างอบรม เพื่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่ม ทุกๆคนจะได้ความรู้มาปฏิบัติจริง เห็นผลจริงและไปเผยแพร่ต่อๆไปได้

มาถึงกิจกรรม Creative CSR “โครงการเกษตรอินทรีย์ทฤษฎียั่งยืน” ทำปุ๋ยหมักชีวภาพและนวัตกรรมใหม่ในการปรับปรุงดิน ทำสารระเบิดดินจากข้าวสุก กากน้ำตาล ทำน้ำหมักกำจัดเพลี้ยกระโดด ในการทำปุ๋ยนี้สามารถนำไปบรรจุใส่ถุงหรือขวดไปจำหน่ายได้อีกด้วย จะช่วยประหยัดทุนในการซื้อปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ชาวนาจะได้กำไรจากการลงทุนมากขึ้น ปลาที่เลี้ยงในกระชังก็จะมีจำนวนการตายน้อยลงและเจริญเติบโตเร็วขึ้น ทุกๆคนจะได้มีอาหารปลอดสารพิษไว้รับประทานกันอย่างถ้วนหน้า

ต่อมา คือ “โครงการแปรรูปแก้วมังกรเป็นกาละแมร์แก้วมังกร” เนื่องจากตอนนี้แก้วมังกรมีจำนวนมากและล้นตลาดแถมยังราคาตกต่ำมาก จึงคิดดัดแปลงแก้วมังกรเป็นของหวานและเป็นของฝากได้อีกด้วย โดยการนำแก้วมังกรมาขูดเนื้อออกแล้วนำไปรวมกับส่วนผสมที่เตรียมไว้แล้วกวนให้เหนียว จากนั้นนำมาตากให้เย็นแล้วนำไปคลุกงา เสร็จแล้วนำมาแพ็คกล่องจากนั้นก็ตั้งราคาผลิตภัณฑ์ ทำเป็นสินค้า OTOP ได้อีกด้วย เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกแก้วมังกร ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น บุคคลในชุมชนจะมีงานทำ คนตกงานก็จะน้อยลง

โครงการน้ำแร่พระร่วงเมืองกำแพงเพชร” ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมาตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ เข้าสู่กระบวนการผลิต ทดสอบตลาด เพื่อผลิตน้ำแร่ได้อย่างเต็มรูปแบบโดยมีกลิ่นต่างๆ เช่น ใบเตย ขิง ชาเชียว เก็กฮวย ทั้งยังจะใส่คลอโรฟิลล์อีกด้วย ผู้บริโภคจะมีสุขภาพดีขึ้น ยอดจำหน่ายก็จะสูงขึ้น ประชาชนจะเจ็บป่วยน้อยลงและยังส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกำแพงเพชรอีกด้วย

วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์บุษบา เหมือนวิหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ซึ่งท่านกล่าวว่า “ได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องหน้าที่พลเมืองและการที่หน่วยงานมีความรับผิดชอบต่อสังคม ได้รู้ความหมายมากขึ้น ดีที่มีกิจกรรมแบบนี้ค่ะ ก็เป็นการเผยแพร่มาในส่วนภูมิภาค ได้รู้เกี่ยวกับหน้าที่พลเมืองและความรับผิดชอบมากขึ้น น่าจะนำเรื่องหน้าที่พลเมืองกลับมาสอนใช้ใหม่ เพราะเนื้อหามันค่อนข้างน้อยในเรื่องนี้ ถ้านำกลับมาสอนได้คิดว่าจะมีประโยชน์กับนักศึกษาค่ะ”

นอกจากนี้อาจารย์ลัดดาวัลย์ เกิดสุวรรณ์ จากวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร ยังได้กล่าวอีกว่า “เป็นโอกาสดีที่อาจารย์และนักศึกษาที่มาในวันนี้ได้รับความรู้ใหม่ๆ ในบางวิชาก็มีการพูดถึง CSR บ้าง แต่ก็ไม่เจาะลึกขนาดนี้ ทำให้นักศึกษาเข้าใจยิ่งขึ้น จบไปแล้วควรจะมีหน้าที่อะไรบ้างจะต้องรับผิดชอบ โดยเริ่มจากตัวเองก่อนและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าไปประกอบอาชีพแล้วก็ได้ดูแลสังคม ทำกับลูกค้าและผลิตสินค้าโดยไม่เอาเปรียบด้วย ดีมากที่มาจัดกิจกรรมให้จังหวัดกำแพงเพชร ในส่วนผู้เข้าอบรมก็มีทั้งนักศึกษาและผู้ประกอบการซึ่งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย อีกทั้งยังสามารถนำหน้าที่พลเมืองมาสอนได้ จริงๆ พอเด็กๆเหล่านี้จบไป ก็จะต้องไปเป็นพนักงานในองค์กรต่างๆ ก็ต้องรู้จักรักองค์กร ซื่อสัตย์ ในการใช้ของ ไม่มาสาย ไม่กลับก่อน การบริการลูกค้า การช่วยเหลือต่างๆ ดูแลรักษาความสะอาด สภาพแวดล้อมทั้งหมดในองค์กรและสิ่งแวดล้อมด้วย”

แหม...วันนี้ Commentators ทั้ง 3 ท่าน ของเราเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านโภชนาการจริงๆครับ เพราะดูจาก Size แต่ละท่านแล้ว ฮ่าๆ แต่ก็ให้ความเห็นได้สนุกสนานทีเดียวครับ เป็นที่ขบขันของผู้ที่มาอบรม ในที่สุดการอบรมก็มาถึงช่วงสุดท้ายครับ หลายๆคนอยากได้เสื้อของเราจริงๆครับ จะว่าไปแล้วเนื้อผ้าของเราก็ดีมากจริงๆครับ ผมยิ่งใส่ยิ่งแน่น ฮ่าๆ โทษเสื้อไว้ก่อน ไม่ได้ดูเลยว่าตัวเองอ้วนขนาดไหนแล้ว หลายๆท่านก็ทำหน้าผิดหวังเพราะไม่ได้เสื้อครับ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ด้วยซิ น้องๆต่างชอบใจกับกิจกรรมแบบนี้ เพราะไม่ทำให้เครียดและหัวเราะกันได้เกือบตลอด กระผมก็กล่าวปิดงานและได้ขอบคุณอาจารย์วุฒิพงศ์ ที่ได้มาให้ความรู้กับทุกๆคนในวันนี้ด้วย

วันนี้แอร์ในห้องอบรมเย็นมากๆครับ แต่พอปิดแอร์หลังเสร็จงานก็ร้อนวูบเลยครับ โลกเรามันร้อนขึ้นเยอะจริงๆ อย่างที่ในสารคดี Home ได้นำเสนอไว้ว่าโลกเราได้เปลี่ยนแปลงไปเยอะแล้ว มีคนเคยถามผมว่าอยากเห็นวันสิ้นโลกไหม พูดจากใจก็อยากเห็นนะครับ แต่ก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เอาไว้อีกซักหลายล้านๆปีข้างหน้าละกันครับ เหอๆ เก็บของกันเรียบร้อยเราก็ได้เดินทางไปเยี่ยมคุณยายของพี่ผึ้งทีมงานของเราครับ อืม...ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอเป็นคนจังหวัดอะไร เพราะไปชัยภูมิ ตาก กำแพงเพชร เธอเคยอยู่มาหมด พอมาถึงบ้านคุณยายของเธอ หลังจากที่สวัสดีผู้ใหญ่เรียบร้อย เราก็ไปนั่งกันที่เปลและดีดกีต้าร์ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน ปล่อยให้เธอคุยกับญาติๆของเธออย่างเต็มที่ ซัก 30 นาที ดูแล้วเธอคงจะคิดถึงญาติๆมากๆเลย เพราะเธอบอกว่าที่นี่เปลี่ยนไปเยอะมากๆ เราก็เดินทางกันต่อไปยังจังหวัดต่อไปครับ.....สำหรับในจังหวัดนี้ขอบพระคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น