วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

อุทัยธานี




จุดหมายของการเดินทางในวันนี้ อาจจะลำบากซักเล็กน้อยเพราะโรงแรมที่เราจะไปเป็นแนว Resort ติดแม่น้ำ ทำให้ต้องหาซอยที่จะเข้าไปให้ถึง แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่เรามาค่อนข้างที่จะดึกแล้ว ทำให้ต้องหาซอยที่จะเข้าไปให้ถึง แต่ถึงจะหายากซักเพียงใด ก็ไม่ทำให้ผมสะทกสะท้านได้ เพราะผมหลับแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้ผมปวดหัวและต้องตื่นจนได้ นั่นคือเสียงของคุณพี่แอนนั่นเอง ไม่ทราบว่าเธอเป็นอะไรเพราะเวลาตกเย็นทีไร เธอจะ Active และพูดๆ ไม่หยุด ฮ่าๆๆ จนผมไม่ไหวแล้ว ระหว่างที่เราเข้าซอยนั้น ผมได้มองไปรอบๆ ก็รู้สึกว่านี่เรามาเข้าป่าหรือไงเนี่ยะ ซักพักก็เห็นแสงไฟตามทางพร้อมกับบรรยากาศที่สวยงาม จอดรถกันปุ๊บก็มีคนเดินมาต้อนรับทันที พร้อมกับผู้ติดตามอีก 3 ตัว เป็นสุนัขที่เชื่องมากๆครับ แต่อย่างว่าถ้าดุใครจะมาพักที่นี่และดูเหมือนมันจะดีใจมากๆที่มีแขกมาพัก


เราได้แยกย้ายกันเข้าห้อง ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมห้องมันโล่งๆ อืม...ไม่มีทีวีนี่เอง ที่นี่เน้นให้คนมาพักผ่อนชมวิวจริงๆครับ ซักพักพี่แอนก็เดินมาเอาของที่ห้องกระผม ขณะที่อาจารย์ไปหยิบนั้น เธอก็ยื่นหน้าเข้ามา แสดงถึงว่าประตูก็ต้องเปิดให้เท่ากับหน้าของเธอ และการมาพักที่แบบนี้ คิดไหมครับว่าจะมียุงหรือแมลงอะไรเข้ามาบ้าง หลังจากที่ทุกอย่างสงบลง ผมก็ได้เข้าไปอาบน้ำ พอออกมาก็เห็นอาจารย์หลับไปแล้ว สังสัยท่านจะเหนื่อย ในขณะที่ผมแต่งตัวอยู่นั้นก็ได้ยินเสียง หวือ....!! มองไปเห็นแมลงตัวใหญ่ทีเดียว เครียดเลย งานเข้าอีกแล้ว ต่อมกลัวแมลงพุ่งขึ้นหัว ประมาณว่ามันไม่ตายผมก็คงนอนไม่ได้ เลยกะว่าจะรอให้มันเข้ามาใกล้ และมันก็บินมาจนได้เลยใช้ผ้าขนหนูฟาดไปเต็มแรง กะว่า ตาย! พอฟาดลงไปปุ๊บ อาจารย์สะดุ้งปั๊บเพราะเสียงฟาดกับลมค่อนข้างรุนแรงรวมกับรังสีอำมหิตจากผม อาจารย์ถามว่า อะไร! เป็นอะไร! ผมบอกไปว่าแมลงครับ ไม่รู้ตัวต่อรึป่าว เห็นตูดมันเหลืองๆ อาจารย์เลยบอกตีไปแบบนั้น ตายแล้วมั้ง แต่แล้วพอมองไปก็เห็นมันอยู่บนเตียงของอาจารย์ ท่านก็ปัดๆมัน ไม่รู้ปัดมันหายไปไหน หาไม่เจอเลยปิดไฟว่าจะนอน พอปิดไฟก็ได้ยินเสียงมันอยู่ที่พื้น คราวนี้ผมหยิบอุปกรณ์กะสังหารมันเต็มที่ และแล้วอาจารย์วุฒิพงศ์พ่อพระผู้มาโปรดสัตว์โลกก็ได้ห้ามผมไว้ และใช้ถุงหยิบมันออกไปปล่อยข้างนอก สถานการณ์เลวร้ายสำหรับผมได้จบลง อา....หลับสบาย เหอๆๆ


รุ่งขึ้นผมต้องตื่นพร้อมกับเสียงดีดกีตาร์ของอาจารย์ตั้งแต่ 6 โมง กว่าๆเห็นจะได้ ท่านฟิตจริงๆครับ ตื่นซะเช้าเลย ที่จริงแล้วท่านบอกว่านอนไม่ค่อยหลับครับ ผมก็อาบน้ำแต่งตัวและมานั่งเล่นบ้าง ก็ได้เก็บภาพวิวต่างๆรอบๆ ดูร่มรื่นจริงๆครับ อาหารวันนี้เราก็นั่งทานกันพร้อมหน้าพร้อมตาเลย เรานั่งทานบนโต๊ะไม้บนสนามหญ้า ดู Romantic มากเลย ถ้ามากับคนที่เรารักนะครับ จะยิ่งได้บรรยากาศสุดๆเลย


กิจกรรมหน้าที่พลเมืองของชาวอุทัยธานี มีผู้มานำเสนอได้ย้ำในเรื่องการเป็นผู้ที่เชื่อฟังยำเกรงต่อพระราชกำหนดกฏหมายของประเทศบ้านเมืองทุกเมื่อ การทำตามกฏหมายนั้นก็เป็นการทำให้ตนเองเป็นคนดี เริ่มจากสังคมเล็กๆก่อนอย่างครอบครัว โดยการเชื่อฟังพ่อแม่ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ ไม่โดดเรียนและการทำตามกฏหมายบ้านเมืองก็ทำให้อยู่อย่างมีความสุข อุบัติเหตุก็จะน้อยลง อยากให้องค์กรเคารพและปฏิบัติตามกฏหมายของท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด ท่านต่อมาเน้นในเรื่องของศาสนา เพราะศาสนาทำให้คนเป็นคนดี รู้จักบาปบุญคุณโทษ รู้จักประมาณตนเองและรู้ว่าตัวเองมีศักยภาพแค่ไหน อยากให้องค์กรแสดงความเป็นพลเมืองบรรษัท โดยมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องและโปร่งใส เพราะบางครั้งในองค์กรเองก็มีความไม่ชัดเจน โดยเฉพาะการให้งบประมาณ ท่านที่สามนั้นเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรม ไม่คดโกงหรือไม่ทุจริตในทุกๆสายงาน ประเทศชาติจะได้เจริญ อยากให้องค์กรเคารพและทำตามกฏหมาย เพื่อให้ทุกคนรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตน


สำหรับอาหารกลางวันในวันนี้นั้นรสชาติเป็นอย่างไรผมคงบอกไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทานครับ ปวดหัวไม่ไหวแล้ว ผมจึงได้ไปแอบงีบซักประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง กลับออกมาอีกทีเหมือนเป็นคนใหม่เลย ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงมาจัดกิจกรรมนำเต้นให้กับผู้มาอบรมได้ ไปมาทุกที่ดูทุกคนจะเกี่ยงกันออกมาหรือไม่ยอมออกมา แต่ที่นี่แย่งกันออกมาครับ สงสัยจะรู้ว่าผมจะแจกเสื้อ ก็สนุกสนานกันไปครับ


CSR เชิงระบบนั้น ผู้มานำเสนออยากให้องค์กรมีการเข้าร่วมในความริเริ่มทางซีเอสอาร์โดยสมัครใจ มีการสอนเกี่ยวกับการประดิษฐ์ของจิ๋ว ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ทำให้เกิดรายได้จากการผลิตของจิ๋ว สอนวิธีการปั้น การผสมสี การจัดเรียงและการรักษา มีการโฆษณาประชาสัมพัน์ สามารถผลิตมาขายได้ ทำให้คนที่ว่างงานหรือด้อยโอกาสทางสังคม หารายได้ให้ตนเองได้ อีกท่านนั้นก็ต้องการในเรื่องเดี่ยวกัน แต่เน้นไปในการจัดอบรมให้ความรู้ความเช้าใจในเรื่อง CSR และไปเผยแพร่ต่อๆไปได้ และท่านสุดท้ายอยากให้องค์กรทำเกี่ยวกับความเข้าใจในเรื่อง CSR เป็นสิ่งสำคัญ มีการจัดอบรมและศึกษาดูงาน ให้ความรู้ด้าน CSR มีการทัศนศึกษาและพาชมดูงานต่างที่เกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมของกิจการต่างๆ


สำหรับกิจกรรม Creative CSR ของชาวจังหวัดอุทัยธานีนั้น ได้เน้นเกี่ยวกับธรรมชาติ ลำน้ำและผักตบชวาเป็นส่วนใหญ่ กระผมจึงได้รวบรวมทั้ง 3 โครงการไว้ด้วยกันเลยครับ โดยชื่อของแต่ละโครงการ คือ โครงการสะแกกังสวยใสด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวอุทัยธานี” ต่อมา คือ “โครงการพัฒนาชุมชนเพื่อสังคมที่ยังยืน” และ “โครงการวัยรุ่นอุทัยใส่ใจสิ่งแวดล้อมทั้ง 3 โครงการมาในแนวเดียวกัน โดยมีการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวให้ตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งน้ำ รณรงค์ให้เกิดการรักษ์แม่น้ำ ประสานกับหน่วยงานต่างให้เข้ามามีบทบาทเพื่ออนุรักษ์แม่น้ำ รับอาสามัครตามสถาบันต่างๆให้เข้ามามีส่วนร่วม จัดประกวดและแต่งคำขวัญ ขอความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง เพื่องบประมาณในการหาอุปกรณ์ในการกำจัดผักตบชวา และนำผักตบชวามาทำเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพ หรือทำเป็นเครื่องจักรสานต่างๆ เช่น เปล กระเป๋า และกล่องเอนกประสงค์ ทั้งยังทำเป็นสินค้า OTOP ต่อได้ การกำจัดหรือลดจำนวนผักตบนั้นเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้น้ำไหลง่ายไม่ทำให้ท่วมและลดการเน่าเสียของน้ำ ปลาในกระชังก็จะไม่ตาย การที่โครงการแบบนี้ประสบผลสำเร็จก็จะทำให้มีผู้คนมาท่องเที่ยวมากขึ้น คนในท้องถิ่นก็จะมีรายได้ แหล่งน้ำสะอาด ธรรมชาติดี ทุกๆอย่างก็จะดีขึ้นและมีชื่อเสียงดึงดูดผู้คนให้เข้ามามากมาย


ในวันนี้ผมาได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์จีระวัฒน์ เฉ่งกอง จากวิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี ท่านกล่าวว่า คิดว่าได้ความรู้มาก ได้เห็นทีมงานเล็กๆแต่มีประสิทธิภาพมาก สิ่งที่ได้ตรงนี้นับเป็นประโยชน์ต่อเด็กมาก โดยเฉพาะกระบวนการระดมสมองนี่ดีมาก อยากให้มีคนมาเยอะกว่านี้ รู้สึกเสียดายแทน ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงพามาได้แค่นี้ ถ้าเป็นไปได้อยากจะพามาเยอะๆเลย ในสมัยผมเด็กก็เคยเรียนในเรื่องหน้าที่พลเมือง แต่ตอนนี้มันหายไป อยากให้เอามาสอนใหม่ ดีที่มาพูดให้เด็กฟัง จะได้รู้ว่าการเป็นพลเมืองที่ดีเป็นอย่างไร จะได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศเราด้วย ก็ขอขอบคุณทีมงานที่มาจัดกิจกรรมให้เราที่นี่ครับ


วันนี้การบรรยายค่อนข้างจะลำบากเล็กน้อยครับ เพราะน้องๆที่มาเป็นเด็กกิจกรรมทั้งนั้นเลย พูดเก่งกันทั้งนั้น เวลานำเสนอก็แซวกันไม่หยุดทำให้เวลาล่วงเลยไปเยอะที่เดียว แต่ก็เป็นประสบการณ์อีกแบบครับ ผมจะได้รู้ด้วยว่าถ้าเวลาเจอเด็กๆ ที่แปลกๆหรือไม่เหมือนกันก็จะได้รู้วิธีที่จะรับมือ รู้จักว่าจะต้องปรับอารมณ์มากน้อยขนาดไหนและปรับตัวได้ถูก


หลังจากที่ทุกๆท่านได้แยกย้ายกันกลับแล้ว เราก็รีบทำการเก็บของอย่างรวดเร็วและเดินทางออกจาก Resort ทันที เพราะต่างคนต่างคิดถึงบ้านกันเหลือเกินแล้ว การเดินทางในครั้งนี้ของทีมเราก็มีทั้งจังหวัด ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี และผมก็ได้ประสบการณ์ต่างๆเพิ่มขึ้นมากมาย การสั่งสอนดูแลจากอาจารย์และพี่สาวอีกสองคน หรือแม้แต่ความเป็นห่วงเป็นใยจากอีกหลายๆคน (จะมีรึป่าวหว่า) รวมทั้งเส้นทางต่างๆจากคนขับรถชั้นยอดที่คำนึงถึงความปลอดภัยสะดวกสบายของเราเป็นหลักเสมอครับ การเดินทางในครั้งหน้าขอบอกไว้ก่อนว่า เราต้องไปกันไกลทีเดียว จะไปถึงไหน โผล่ที่ไหนบ้าง ทานอะไรบ้าง (อีกแล้ว) ต้องติดตามกันหน่อยนะครับ ขอให้ทุกท่านแข็งแรง ฝันดีทุกๆคืน ราตรีสวัสดิ์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น