วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

สุโขทัย

สวัสดีท่านผู้ชม Blog อีกครั้งนะครับ อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีกันหรือเปล่า กระผมก็จะมาสาธยายบรรยากาศต่าง ๆ จากกิจกรรม CSR Campus เช่นเดิมซึ่งครั้งนี้เราเริ่มเดินทางสู่ภาคเหนือแล้วครับ โดยเริ่มจากภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งจังหวัดแรกที่เราจะไปครั้งนี้ คือ จังหวัดสุโขทัย นั่นเองครับ ส่วนตัวก่อนออกเดินทางมีความรู้สึกว่าเมืองสุโขทัยเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในเรื่องเมืองโบราณสถานอย่างมาก เคยฝันไว้ตอนเด็ก ๆ ว่าหากมีโอกาสสักครั้งต้องไปเที่ยวให้ได้เลยทีเดียวซึ่งกระผมก็คว้าโอกาสอย่างไม่รีรอเลยครับ เราออกเดินทางจากสถาบันประมาณ 10.00 น.ช่วงเวลาเดินทางเราก็มีการเปิดคอนเสริต์ทั้ง แคลอรี่ บลา บลา กับ 3B&Playboy อีกด้วย ทำให้ทีมงานเราทั้งรถเกิดอาการคึกคักเป็นพิเศษครับ

พอใกล้เที่ยงเราก็มุ่งหมายพร้อมกันว่าต้องเริ่มหาร้านอาหารแล้วครับ (เรื่องทานอาหารเป็นเรื่องหลักที่ทีมเราไม่เคยมองข้ามและใส่ใจในทุกรายละเอียด..หุ ๆ) ช่วงเวลาดังกล่าว เรากำลังอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรีครับพี่รถตู้ก็เลยแนะนำร้านอาหารร้านหนึ่งที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมาก (กระผมลืมชื่อร้านไปแล้ว) ซึ่งพอทีมงานเราถึงร้านดังกล่าวเมื่อเปิดเมนูอาหารก็ต้องตะลึงครับว่าเกือบทุกเมนูมีแต่ปลาช่อนเป็นส่วนประกอบทั้งนั้น ตั้งแต่ ปลาช่อนแดดเดียว ปลาช่อนสามรส พุงปลาช่อนต้นยำ ยันไปถึงของหวานนั่นก็คือ เค้กปลาช่อนนั่นเอง เมื่อเมนูมีแต่ปลาช่อน ทีมงานเราก็สนองด้วยการสั่งแต่เมนูปลาช่อนมาทานเช่นกัน ทานกันไปจนคาวปากกันทั่วหน้า ซึ่งโดยรวมผมว่าค่อนข้างอร่อยนะครับ หากมื้อเย็นทานที่นี่ได้ก็จะย้อนกลับมาทานที่นี่อีกครับ

หลังจากเราทานอาหารเที่ยงจนอิ่มไปแล้วเราก็เริ่มเดินทางต่อครับ จนเรามาถึงจังหวัดนครสวรรค์พี่รถตู้ก็ได้แนะนำให้เรามาไหว้พระวัดคีรีวงศ์ ซึ่งจุดเด่นของวัดนี้คือตั้งอยู่บนภูเขาครับรวมทั้งเจดีย์ยังมีพระสารีริกธาตุอยู่ด้วย (ได้บุญอย่างเยอะเลยแฮะ) หลังทำบุญเสร็จกระผมก็ยืนมองวิวบนเจดีย์ทำให้ผมเห็นภาพทิวทัศน์ของเมืองนครสวรรค์เกือบทั้งเมืองเลยครับ สักพักก็มีทีมงานสาวสวยท่านหนึ่งได้ชี้ไปที่สิ่งก่อสร้างที่มีสถาปัตยกรรมแปลก ๆแล้วกล่าวเป็นวจีออกมาว่า “นั่น ๆ! หมู่บ้านอะไรอ่ะ” (บวกกับอารมณ์ Hyper ดวงตาเป็นประกายอยากรู้อยากเห็นมากก..ของสาวเจ้า) ความรู้สึกตอนนั้นของกระผมถึงกับหนาวขนลุกวาบเลยทีเดียวครับต้องบอกกล่าวย้อนกลับไปที่ทีมงานสาวสวยทันทีว่า “พี่ครับ สถาปัตยกรรมเป็นหมู่บ้านที่พี่ว่า แถวบ้านผมเรียกฮวงซุ้ยครับ!!” ทีมงานสาวสวยถึงกับผงะเลยครับมองไปอีกทีก็รู้สึกว่า “เออ จริงด้วยฮวงซุ้ย ฉันมองเป็นบ้านได้อย่างไรเนี่ย!” เสียงหัวเราะก็ระเบิดออกมาจากกลุ่มอย่างไม่ได้นัดหมายเลยทีเดียวครับ

ตอนนี้ก็เป็นเวลา 17.30 น.แล้วครับซึ่งตอนนี้พวกเราก็มาถึงโรงแรมไพลินที่จังหวัดสุโขทัยแล้ว กระผมจึงถามพี่ที่โรงแรมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัยว่าใกล้ ๆ แถวนี้มีที่ไหนบ้าง ทางพี่ที่โรงแรมได้แนะนำอุทยานประวัติศาสตร์เมืองเก่าสุโขทัยครับ เพราะใกล้ด้วยแถมปิดประมาณ 18.30 น.อีกต่างหาก ทีมงานเราจึงไม่รอช้าเพื่อไปยลโฉมเมืองประวัติศาสตร์ทันที พอเราไปถึงก็ต้องบอกได้คำเดียวครับว่าคุ้มค่าจริง ๆ ร่องรอยซากปรักหักพังของวัดโบราณ รูปปั้นพระพุทธรูป ล้วนแฝงไปด้วยร่องรอยอารยธรรมทั้งสิ้น ผมเชื่อว่าคนสุโขทัยในสมัยนั้นคงอยู่กันด้วยรอยยิ้มอย่างแน่นอน เพราะศิลปะพระพุทธรูปจากที่ผมสังเกตุยิ้มทุกองค์เลยครับสมแล้วครับที่เป็นเมืองแห่งความสุขใจ (ตามความหมายของคำว่าสุโขทัยเลยครับ)

หลังจากเราเที่ยวเสร็จแล้วก็เป็นเวลาเย็นพอสมควรเหมาะแก่การรับประทานอาหารเย็นซะที จากที่เจ้าหน้าที่โรงแรมได้แนะนำร้านอาหารขึ้นชื่อต่าง ๆ พวกเราก็ตระเวนหาร้านอาหารอย่างดีแต่ก็ปรากฏว่าทุกร้านปิดหมดเลยครับ เราจึงไปฝากท้องที่ MK ในห้าง Big C ทันที บรรยากาศครอบครัวมากมายครับ ระหว่างที่เรารับประทานก็เห็นการเต้นออกกำลังกายของพนักงาน MK อีกด้วย เห็นแล้วก็อดยิ้มมิได้ (ได้แต่นึกว่าที่สถาบันน่าจะมีบ้าง) หลังจากการแสดงเสร็จลงกระผมก็ปรบมือทันทีเลยครับ หลังจากเราทานอาหารเสร็จแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรมเลยครับเพื่อจะรีบพักผ่อนและเตรียมงาน CSR Campus ในวันต่อมา

วันต่อมาก็ผ่านมาไวเหมือนโกหกนะครับในวันนี้กระผมก็ตื่นนอนประมาณช่วง 6.15 น.พอดีหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็เริ่มรับประทานอาหารกับทีมงานอย่างพร้อมหน้า ซึ่งในช่วงทานอาหารเช้าวันนี้ทางทีมงานสาวได้บอกว่าจะมีบุคคลท่านหนึ่งที่มาร่วมงานซึ่งเคยมาร่วมงาน CSR Campus ในปีแรกอีกด้วย และเป็นผู้ที่แนะนำว่าควรมีเรื่องของหน้าที่พลเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง CSR อีกด้วย จากคำแนะนำเมื่อปีที่แล้วก็นำมาสู่กิจกรรมหน้าที่พลเมืองและพลเมืองบรรษัทในปีที่นี้ด้วยครับ (ถือว่าเป็นเรื่องนวัตกรรมเหมือนกันนะเนี่ย) พอเราทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้าสู่ห้องประชุมเพื่อเตรียมงานทันทีซึ่งวันนี้ผู้เข้าฟังส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคธุรกิจจนถึงระดับข้าราชการบำนาญก็มีนะครับในวันนี้

ในช่วงกิจกรรมหน้าที่พลเมืองและพลเมืองบรรษัทมีข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวสุโขทัยดังนี้ อาทิ การเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรม ด้วยการทำงานโดยอาศัยหลักธรรมเรื่องอิทธิบาท 4 มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน ส่วนเรื่องพลเมืองบรรษัทอยากให้องค์กรธุรกิจเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของท้องถิ่นโดยเคร่งครัด เนื่องจากการทิ้งของเสียหรือสิ่งปฏิกูลลงแหล่งน้ำหรืออากาศล้วนเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั้งสิ้น ส่วนหัวข้อต่อมาที่สนใจ คือ การเป็นผู้มีความสัตย์ด้วยการพูดจาอย่างตรงไปตรงมาและส่วนของพลเมืองบรรษัทอยากให้องค์กรเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของท้องถิ่นอย่างเคร่งครัดซึ่งจะเป็นการไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนส่วนรวมอีกด้วย

มาถึงช่วงกิจกรรม CSR เชิงระบบซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวสุโขทัยดังนี้เช่น การเพิ่มความเชื่อถือได้ในการดำเนิน CSR ขององค์กรเนื่องจากการที่องค์กรมีการทำ CSR ด้วยการให้บริการรับเช็คสภาพรถในราคา 20 บาทด้วยการไม่เกี่ยงยี่ห้อด้วยแต่ประชาชนทั่วไปที่ใช้รถยนต์ก็ยังไม่เชื่อว่าองค์กรเราจะรับเช็คสภาพรถทุกยี่ห้อจึงต้องมีการเพิ่มความเชื่อถือให้แก่ประชาชนทั่วไปที่ใช้รถยนต์ และเมื่อเช็คสภาพเรียบร้อยหากต้องซ่อมก็จะมีการแจ้งราคาค่าซ่อมอีกด้วยโดยไม่จำเป็นต้องซ่อมกับองค์กรก็ได้ ส่วนหัวข้อต่อมาคือ การทบทวนและปรับปรุงการปฏิบัติดำเนินงานขององค์กรที่เกี่ยวกับ CSR โดยปกติหน่วยงานจะเน้นการให้บริการอุตุนิยมวิทยาด้านเกษตรกรรมแก่เกษตรกรในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งประกาศแค่เพียงช่องทางวิทยุในช่วงเวลาจำกัด ทำให้เกษตรกรอาจได้รับข่าวสารอย่างไม่ทั่วถึงจึงต้องมีการปรับปรุงการปฏิบัติดำเนินงานขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอาจจะเพิ่มช่องทางผ่านโทรศัพท์มือถืออีกช่องทางก็เป็นได้ซึ่งจะสามารถนำข้อมูลเรื่องอากาศไปสู่เกษตรกรได้ดีกว่าเดิม

มาในช่วงพักทานอาหารกลางวันบรรยากาศก็เป็นห้องอาหารเมื่อตอนเช้าซึ่งเป็นกันเองมาก มีทั้งแขกจากงานอื่น ๆ มาร่วมกันในห้องอาหารอย่างคึกคัก(หัวดำหัวทองปนกันมั่วเลยครับ) หลังจากกระผมทานอาหารเสร็จก็รีบมาเตรียมงานต่อเพื่อเริ่ม CSR Campus ในรอบบ่าย ซึ่งกระผมเห็นคุณป้าท่านหนึ่งมานั่งรอที่ห้องประชุมแล้ว ก็เลยชวนท่านคุยสักพักซึ่งเนื้อหาเรื่องที่คุยก็จะเป็นเรื่องทั่วไปในจังหวัดสุโขทัยว่าตอนนี้ในน้ำมีปลา ในนายังมีข้าวอยู่หรือเปล่า ซึ่งคุณป้าบอกว่านายังมีข้าวอยู่นะ แต่ในน้ำไม่แน่ใจว่าจะมีปลาอยู่หรือเปล่า คุณลุงบางท่านบอกว่าปลาหนีจากในน้ำไปอยู่ Big C หมดแล้ว 555 และผมยังถามเพิ่มในส่วนของเมืองเก่าเทียบกับ อุทยานศรีสัชนาลัยต่างกันอย่างไรบ้าง คุณป้าเล่าว่าเมืองเก่าจะเน้นเป็นพวกวัดมากกว่าแต่ที่อุทยานศรีสัชนาลัยจะดูคึกคักกว่า ชุมชนแถวนั้นมีการตั้งเป็นตลาดเพื่อซื้อขายพวกผ้าบ้าง หรือเครื่องเงินบ้าง ส่วนบริเวณศรีสัชนาลัยก็ยังมีพวกถ้วยชามสังคโลกอีกด้วย(ในใจกระผมก็ได้แต่นึกอยากไป แต่คงไม่มีเวลาไปเที่ยวอย่างแน่นอน)

ในส่วนกิจกรรมสุดท้ายคือกิจกรรม Creative CSR ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจของชาวจังหวัดสุโขทัยดังนี้เช่น “โครงการชุมชน 700 ปีสุโขทัย” โดยโครงการดังกล่าวจะเน้นด้านการท่องเที่ยวในสุโขทัยให้มากขึ้นเนื่องจากเดิมทีจังหวัดสุโขทัยเป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้วซึ่งนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวแค่เมืองเก่าเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายด้าน เช่น การผลิตผ้าตั้งแต่การทอจนถึงย้อมสีผ้า การทำขนม และนาฏศิลป์แบบดั้งเดิมหรือแบบประยุกต์อีกด้วย เป็นต้น โดยโครงการนี้จะเน้นความน่าสนใจในเรื่องอื่น ๆ ของจังหวัดสุโขทัยให้มากขึ้นซึ่งจะเป็นการเพิ่มจุดขายในการท่องเที่ยวให้จังหวัดสุโขทัยไปในตัวรวมถึงการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนสุโขทัยอีกด้วย

โครงการต่อมาคือ “โครงการเกษตรอินทรีย์” เนื่องจากการที่สิ่งแวดล้อมในจังหวัดสุโขทัยปัจจุบันค่อนข้างแย่ซึ่งสังเกตุได้จากอุณหภูมิที่สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่น ๆ รวมถึงเกษตรกรทั่วไปที่ยังผลิตพืชผลทางการเกษตรที่ยังใช้สารเคมีอยู่ซึ่งทำลายทั้งสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายด้านสารเคมีก็ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นจึงมีการเริ่มโครงการเกษตรอินทรีย์โดยเริ่มจากการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเกิดความตระหนักถึงความสำคัญของเกษตรอินทรีย์ และมีการบรรยายการทำเกษตรกรรมแบบผสมผสานโดยเน้นขุดสระน้ำไว้ในพื้นที่ด้วยเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่เกษตรรวมถึงเลี้ยงปลาในบ่อน้ำนั้นด้วย

และวันนี้ผมมีโอกาสสนทนากับอาจารย์สังวร ด้วงบาง รองผู้อำนวยการ วิทยาลัยการอาชีพศรีสำโรงจังหวัดสุโขทัยโดยท่านกล่าวกับผมว่า “ วันนี้ได้ทราบถึงความรู้ด้าน CSR เกี่ยวกับเรื่องชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยจะนำความรู้ดังกล่าวนี้ไปบูรณาการในสถานศึกษาให้เป็นระบบมากขึ้น และเรื่องพลเมืองบรรษัทจะต้องนำไปสอดแทรกในกิจกรรมต่าง ๆ หรืออาจารย์เพื่อนำไปเผยแพร่สู่นักศึกษาอีกที ซึ่งตอนนี้ทางวิทยาลัยก็มีกิจกรรมในการให้บริการชุมชนเรื่องการซ่อมสร้างของชุมชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่นซึ่งเป็นการให้นักศึกษาได้รับความรู้ทั้งวิชาชีพและ CSR ผ่านการปฏิบัติอีกด้วย”

ตอนนี้กิจกรรม CSR Campus จังหวัดสุโขทัยก็ได้จบแล้ว ซึ่งตอนนี้พวกเราก็เพลียกันระดับหนึ่งจึงมีการเสนอว่าเราควรมาเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสักหน่อยโดยเรามุ่งหน้าไปร้านเจ๊แฮครับ พอมาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊แฮทางร้านก็ได้ต้อนรับด้วยการคว่ำเก้าอี้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว (แถวบ้านเรียกร้านปิด) เราจึงกลั้นใจ (หรือกลั้นหิวก็ไม่รู้) ไปเติมพลังต่อในจังหวัดต่อไป ใบ้ให้นิดนึงว่าจังหวัดต่อไปเป็นจังหวัดบ้านเกิดสมเด็จพระนเรศวรอีกด้วย แล้วพรุ่งนี้เรามาเจอกันใหม่ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น