วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นครนายก







ในที่สุดงานเลี้ยงก็มีการเลิกรา ทีมที่ใหญ่อลังการของเราประมาณ 8 คนที่ได้ร่วมกันไปดำเนินกิจกรรม CSR Campus ใน 4 จังหวัดนำร่อง (อ่านย้อนหลังกันได้นะครับ) ก็ต้องแยกทีมกันเสียทีนะครับ ซึ่งแยกเป็น 2 ทีม แต่ละทีมก็แยกแต่ละสายไป โดยวันนี้ทีมของเราซึ่งมี ตัวกระผม (หนึ่ง) พี่บอย พี่สาว และพี่น้องก็เตรียมมุ่งหน้าไปจังหวัดนครนายกนะครับ ส่วนอีกทีมก็จะมีคุณแม๊ค พี่พงศ์ พี่ผึ้ง และพี่แอน ซึ่งได้ออกเดินทางตั้งแต่วันอาทิตย์เย็นแล้วนะครับ ส่วนทีมผมเพิ่งออกเดินทางในเย็นวันจันทร์ครับ เราได้ไปฝากท้องที่ร้านอาหารเวียดนามแถวรังสิตนะครับ ซึ่งรสชาติค่อนข้างอร่อยมากครับ เป็นร้านอาหารเวียดนามที่สุโค่ย (สุโค่ย - เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าสุดยอด)อีกที่เลยทีเดียวครับ

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จล้อรถตู้ก็เริ่มหมุนอีกรอบ หลังจากท้องอิ่มแล้วทีมงานผมก็หลับตาหมดทุกคน (ยกเว้นคนขับรถตู้นะครับ) จากป้ายหลักกิโลเมตรก็ได้แสดงให้เห็นว่าระยะทางที่เราจะเดินทางไปจังหวัดนครนายกเป็นระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร และในที่สุดเราก็ได้เห็นที่พักของเราวันนี้แล้วครับ นั่นก็คือ จันทรา รีสอร์ท นั่นเอง ต้องบอกสถานที่ค่อนข้างอลังการมากครับ แต่ ๆ ..........รถตู้เราเลยครับเลยไปไกลครับ ความคิดผมเข้าใจว่ารถตู้กำลังพาพี่บอยไปหาที่โอนเงิน ซึ่งพี่บอยต้องการโอนเงินผ่านตู้กสิกรไทยครับ ก็เลยไม่ได้เตือนพี่รถตู้ แต่ส่วนพี่รถตู้ที่ขับเลยไปก็อาจเกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดเกิดขึ้น ผลก็คือ รถตู้เราเกือบเลยไปสู่ที่ รัศมี รีสอร์ทซึ่งเป็นที่พักของทีมผมในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เราจะไปจัด CSR Campus ในวันถัดจาก จังหวัดนครนายก สุดท้ายก็เกิดความเข้าใจตรงกันเสียที หลังจากนั้นเราก็ได้วนรถเล่นเพื่อหาตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งในที่สุดเราก็เจอครับเพราะจากการเข้าไปวนในตัวอำเภอเมืองของจังหวัดนครนายกนั้น ทำให้เราทราบอย่างหนึ่งว่าตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทยในจังหวัดนครนายกหายากมากครับ พยายามสังเกตสีเขียวเป็นหลักแต่ส่วนใหญ่จะเป็น 7-Eleven ทั้งนั้น

ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วครับ จันทรา รีสอร์ท เมื่อผมเห็นรีสอร์ทครั้งแรก คำแรกที่ผมนึกในใจคือคำว่า “มันหรูหรามากกกกกกก “ ซึ่งพี่ ๆ ในทีมส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเราควรร่วมชักภาพกันซักครั้งหนึ่ง ซึ่งหลักจากร่วมกันชักภาพเสร็จ ก็เป็นเวลาประมาณ 21.30 น. เราจึงเริ่มเข้าที่พัก เพื่อเตรียมทำหน้าที่ผู้ช่วยวิทยากรที่ดีในวันพรุ่งนี้ และวันนี้ผมยังได้ทดลอง Air Card ที่ไปถอยมาใหม่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการใช้ครั้งแรกในต่างจังหวัด มันก็สามารถทำหน้าที่ได้ดีมากครับ ทำให้เราสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ ก็ต้องขอขอบคุณที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีพัฒนาขึ้นและสามารถสนองความต้องการของมนุษย์ใส่แว่น หน้าตาดี ๆ คนหนึ่ง ณ จังหวัดนครนายก (แอบยอตนเองเล็กน้อย)ได้ดีทีเดียวครับ และในที่สุด วันนี้หัวเราก็เริ่มถึงหมอน เวลา 00.15 น.พอดี

อ้าว เช้าแล้วเหรอ (เสียงดังกล่าวมาพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุก เวลา 6.10 น.) พอเริ่มขยับเปลือกตา ซึ่งทำให้เห็นตาดำที่ออกมามองท้องฟ้าหม่น ๆ (มีฝนนิดหน่อย)ของวันใหม่ในการทำงานที่สถานที่ต่างออกไป เราเริ่มแต่งตัวเพื่อเตรียมไปเจอกับพี่ ๆ ทีมงานที่โต๊ะอาหาร วันนี้อาหารมื้อแรกของเราเป็นขนมปังครับ สามารถเลือกได้ว่าจะทาอะไร ส่วนอาหารหลักช่วงเช้ามีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้ม หรือ American Breakfast ซึ่งกระผมอยากลองเมนูหลังว่ามันคืออะไร ซึ่งมันก็ประกอบด้วยไข่ดาว แฮม และไส้กรอก นั่นนนนเองงงง...

หลังจากทานอาหารเสร็จช่วงเช้า เราก็รีบออกไปจัดห้องประชุมทันที พวกพี่ ๆ เค้านำไปก่อน ส่วนตัวผมต้องไปตามพี่รถตู้เพื่อนำของมาจัดที่ห้องประชุม แต่พี่รถตู้หายไปแล้ว งง เลยครับ พอเราจะเริ่มเดินทางไปห้องประชุมก็ ..... หลงครับ เพราะว่ารีสอร์ทค่อนข้างใหญ่มาก กว่าจะเข้าห้องประชุมได้เค้าก็ยกของกันได้เกือบหมดแล้ว เพราะพี่รถตู้เขาวกรถมาก่อนหน้านี้แล้ว (เฮ้อ อดทำหน้าที่อันถนัดเลย)

วันนี้เริ่มงานก็เริ่มมีคนทยอยเข้ามา ทั้งจากสถานศึกษาและหน่วยงานเอกชนอื่นๆ บรรยากาศค่อนข้างกันเองอีกแล้วครับท่าน หลังจากเปิดสารคดี Home และบรรยายในเรื่องของหน้าที่พลเมืองช่วงเช้าเสร็จ ก็มาถึงช่วง Exercise Session ซึ่งมีหัวข้อหน้าที่พลเมืองที่น่าสนใจ เช่น การเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนในศาสนาอย่างเคร่งครัด เน้นถึงการมีหลัก 2 ข้อใหญ่ คือ เรื่องหิริโอตัปปะ มีการละอายและเกรงกลัวต่อบาป และเรื่องขันติโสรัจจะ คือการมีความอดทน และอ้อนน้อมถ่อมตน ส่วนของความเป็นพลเมืองบรรษัทที่อยากเห็น ก็จะเน้นการปลูกจิตสำนึกให้มีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ในการทำงาน ส่วนหัวข้อที่สองที่น่าสนใจของหน้าที่พลเมือง คือ การมีความสวามิภักดิ์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดนเน้นการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ และการไม่มีส่วนร่วมในการสร้างความขัดแย้งให้แก่บ้านเมือง ส่วนของความเป็นพลเมืองบรรษัทที่อยากเห็น จะเป็นการแสวงหากำไรโดยใช้หลักธรรมาภิบาล เพราะอยากให้ธุรกิจคำนึงถึงหลักจรรยาบรรณ รวมทั้งกฎระเบียบต่าง ๆ ในการประกอบธุรกิจ

กิจกรรมถัดมาจะเป็นกิจกรรม CSR เชิงระบบ ซึ่งมี 2 หัวข้อที่หยิบยกมานำเสนออย่างน่าสนใจเช่นกัน คือ การริเริ่มกิจกรรม CSR ด้วยความสมัครใจ ด้วยการอาสาให้ความรู้การนำมะกรูดมาทำยาสระผมให้แก่ชุมชน เพราะนครนายกค่อนข้างมีผลผลิตมะกรูดเยอะ ซึ่งผลที่ได้จะทำให้ชุมชนสามารถผลิตน้ำยาสระผมใช้เองหรือขายได้ เป็นการเพิ่มช่องทางหารายได้อย่างหนึ่ง ส่วนกิจกรรมที่สอง คือการให้ความรู้ความเข้าใจแก่องค์กรด้วยการจัดอบรม สัมมนา เกี่ยวกับ CSR แก่พนักงาน ซึ่งจะทำให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจด้าน CSR อย่างถูกต้อง และสามารถนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ CSR ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานภายในองค์กรได้

วันนี้ก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับท่านผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา 73 ที่ชื่อ คุณสันทัด ระงับทุกข์ ซึ่งให้ความเห็นต่อกิจกรรมของเราว่า “ วันนี้เป็นการเติมเต็มความรู้เกี่ยวกับ CSR อย่างมาก เพราะสมัยศึกษาปริญญาโทก็ได้เรียนรู้ด้าน CSR มาพอสังเขป แต่มิได้มีการเจาะลึกให้เห็นภาพ แต่วันนี้งาน CSR Campus ได้เติมเต็มตรงจุดนี้ โดยเฉพาะในส่วนเนื้อหาหน้าที่พลเมืองของผู้ประกอบการจะสามารถนำไปประยุกต์ให้กับนักศึกษาได้อย่างมาก เพราะเป็นความรู้ที่นักศึกษาควรจะมี เพราะนักศึกษาในวันนี้จะเป็นพนักงานในองค์กรวันหน้า”

และอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่กระผมได้เกียรติสัมภาษณ์ก็คือ อาจารย์ จิรวัฒนา แสนขาว วิทยาลัยเทคนิค นครนายก โดยเนื้อหาสัมภาษณ์มีดังนี้ “วันนี้เปิดโลกทัศน์มากขึ้นในด้าน CSR โดยความรู้ดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมองสังคมและสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น มิใช่มองแต่ผลกำไรเพียงด้านเดียว และในเรื่องหน้าที่พลเมืองเคยมีโอกาสเรียน และเสียดายที่รายวิชาดังกล่าวถูกตัดออก ซึ่งในการสอนส่วนตัวจะเน้นการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์เข้ากับการสอนด้วย ซึ่งจะทำให้นักศึกษาสามารถนำวิชาความรู้ดังกล่าวไปใช้และพึ่งพาตนเองได้”

กิจกรรมสุดท้าย คือ การคิดค้น Creative CSR พร้อม KPI โดยกิจกรรมที่ถูกโหวตเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่ "โครงการท่องเที่ยวนครนายกปลอดภัย ใส่ใจความสะอาด" โดยเสนอให้มีการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้เห็นถึงอันตรายจากการขับขี่อย่างประมาท รวมถึงการใช้หลัก 5 ส. ในการจัดการด้านความสะอาดอย่างครบวงจร เนื่องจากนครนายกเป็นจังหวัดที่โดดเด่นเรื่องสถานท่องเที่ยว เมื่อมีความสะอาดบวกกับความปลอดภัยก็จะทำให้จังหวัดนครนายกมีโอกาสรับนักท่องเที่ยวในจำนวนที่เพิ่มขึ้น

กิจกรรมที่น่าสนใจรองมา คือ“โครงการแยกประเภทขยะและลดปริมาณขยะ” ที่เน้นการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแยกขยะ การลดปริมาณขยะแก่หมู่บ้านและชุมชน ทำให้ชุมชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทขยะอย่างชัดเจน ทั้งยังมีการนำขยะมาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งจะเป็นการลดปริมาณขยะไปในตัวด้วย นอกจากนี้ ในการดำเนินงานยังจะใช้วิธีขอความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดเก็บขยะ เพื่อให้โครงการนี้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

กิจกรรมสุดท้าย คือ “โครงการรักษาสิ่งแวดล้อมของจังหวัดนครนายก” เริ่มต้นจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน มาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการเก็บขยะ พัฒนาภูมิทัศน์ในชุมชน รวมถึงการจัดให้มีถังขยะในสถานที่ต่างๆ และมีการปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นตามชุมชนเพื่อลดมลพิษทางอากาศด้วย ซึ่งประโยชน์จากโครงการนี้ จะทำให้จังหวัดนครนายกมีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น รวมไปถึงการส่งเสริมการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไปในตัวด้วย

ในที่สุดการออก Campus ครั้งแรกอย่างเป็นทางการก็สำเร็จลุล่วง เมื่อเวลา 16.30 น.พอดี (ช่างรักษาเวลาได้ดีจริงๆ) หลังจากเก็บของเรียบร้อย ทีมงานก็ได้มีโอกาสไปไหว้พระวัดหลวงพ่อปากแดง เพื่อขอพร หลังจากไหว้พระเสร็จ จิตใจก็เริ่มสดชื่นและมุ่งตรงไปยังจังหวัดต่อไปคือ ปราจีนบุรี และที่พักคือ รัศมี รีสอร์ท ในช่วงทางผ่าน เราได้ชมเขื่อนที่ใหญ่มาก ชื่อเขื่อนขุนดานปราการชน ก็เก็บภาพมาพอสมควร เพิ่งรู้ว่าธรรมชาติมันสุดยอดจริง ๆ

ทีมงานเราก็มุ่งสู่ปราจีนบุรีอย่างเต็มตัวอีกครั้ง และก็เป็นไปตามคาดครับเกิดการถกเถียงเรื่องเราจะไปทานข้าวที่ไหนกันดี จึงมีการสอบถามไปยังทาง รัศมี รีสอร์ท ก็ได้รับคำแนะนำมาว่า เป็นร้านพิมาย การ์เด้น ครับ ซึ่งจะห่างจากวงเวียน ประมาณ 9 กิโลเมตร เราก็ตั้งตารอครับ และก่อนที่เราจะเข้าไปถึง .... เหตุการณ์คาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นอีกแล้วครับท่าน .... เราหลงครับ ผนวกกับหาร้านไม่เจอ และเป็นเวลา 19.00 น. สรุปมารู้ตอนหลังว่า ร้านพิมาย การ์เด้น ปิดไปแล้ว สุดท้ายเราจึงไปเก็บของที่ รัศมี รีสอร์ท ก่อน และทำการสอบถามร้านอาหารอีกรอบ เพราะตอนนี้พวกเราเริ่มตาเหลือกแล้วครับ (หิวมากมาย) ในที่สุดก็ได้ร้านเจ้าคุณมาช่วยปลดเปลื้องความหิวผสมทุกข์ไป และย้อนกลับมาที่ห้องพัก เวลา 21.40 น.พอดี และแล้วภารกิจในวันนี้ก็จบลงสวยงาม (ด้วยการหลงไป สอง รอบ) และหัวก็ถึงหมอน เวลา 00.10 น.เช่นเดิม อิอิ

3 ความคิดเห็น:

  1. คุณวรนัฐ สุโค่ยยยย มากเยย

    หัวข้อการบรรยายและเรื่องที่สนทนากันในโครงการ น่าสนใจมากเลยคะ

    สู้ๆ นะคะทุกท่าน

    ตอบลบ
  2. โห่....มีแต่กิจกรรมที่น่าสนใจทั้งเลยยย

    ตอบลบ
  3. ขออนุโมทนาบุญที่ได้ทำด้วยนะคะ และวันได้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมใน "เรื่องขันติโสรัจจะ คือการมีความอดทน และอ้อนน้อมถ่อมตน" ค่ะ

    ในส่วนของกิจกรรมที่ในที่ประชุมพูดถึงเรื่อง "การให้ความรู้ความเข้าใจแก่องค์กรด้วยการจัดอบรม สัมมนา เกี่ยวกับ CSR แก่พนักงาน ซึ่งจะทำให้พนักงานมีความรู้ความเข้าใจด้าน CSR อย่างถูกต้อง และสามารถนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ CSR ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานภายในองค์กรได้" อยากให้วิทยากรแจ้งในที่สัมนาด้วยนะคะว่ามีโครงการ "CSR Day" ค่ะ สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.csrday.com

    ตอบลบ