ตอนนี้รถตู้ของเราก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดลำพูนซึ่งในช่วงระหว่างทางก็มีเส้นทางคดเคี้ยวขึ้นเขาพอสมควรแต่ไม่มากเท่าตอนเดินทางไปลำปาง (แอบโชคดีเล็กน้อยนะเรา) หลังจากผ่านทางคดเคี้ยวบนภูเขามานานก็มาถึงทางราบซะที รถตู้เราก็มุ่งหน้าสู่โรงแรมเดอะรีเจนท์ทันที โดยรถตู้เราคิดว่าโรงแรมน่าจะอยู่ในตัวอำเภอเมืองอย่างแน่นอนแต่ผิดคาดครับ หลังจากเราวนรถอยู่นานทีเดียวเราก็ลงมาถามทางคนลำพูนจึงทราบว่าตัวโรงแรมอยู่แถวนิคมอุตสาหกรรมลำพูนนู้น .... ทางทีมเราก็เลยเริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่โรงแรมเดอะรีเจนท์อีกครั้งหนึ่งต้องยอมรับว่าเส้นทางเริ่มกันดารเรื่อย ๆ ตามลำดับ และตอนนี้เรามาถึงโรงแรมรีเจนท์แล้วครับ สภาพ Classic มากห้องนอนของพวกเราอยู่ชั้น 2 และห้องประชุมอยู่ชั้น 4 (ไม่มีลิฟต์ด้วย) ซึ่งในห้องประชุมมีการแต่งห้องด้วยสไตล์ Mix & ไม่ Match อย่างยิ่ง เช่น ร่ม ภาพวาดสาวลำพูน รูปดอกไม้ และไฟเธ็ค เป็นต้น (จากสภาพดูไม่น่าเข้ากันได้แต่โรงแรมรีเจนท์นี้ทำให้เกิดขึ้นแล้วครับ)
หลังจากเราดูห้องประชุมกันเรียบร้อยเราเดินลงบันไดมาชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวออกไปทานอาหารเย็นต่อไป ซึ่งก่อนจะออกไปทางเราก็ Check เรื่องอาหารเช้าพวกเราจากทางโรงแรม แต่ทางโรงแรมก็ไม่มีให้แต่อย่างใด มีแต่กาแฟเท่านั้น ตอนนี้รถตู้เราก็เริ่มออกตัวไปยังร้านอาหารเป้าหมายนั่นก็คือ ร้านไอศกรีมบ้านสวน อย่าแปลกใจนะครับว่าเราคิดจะไดเอ็ททานไอศกรีมแทนข้าว (ยิ่งอ้วนกว่าเดิมอีกมั้งเนี่ย) แต่ร้านไอศกรีมบ้านสวนขายอาหารเหมือนร้านทั่วไปแหละครับ หลังเข้ามาในร้านบรรยากาศก็ดูเป็นบ้านสวนมาก หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยตอนนี้เราก็มุ่งไป Big C เลยครับเพื่อไปซื้อข้าวเช้าของพรุ่งนี้ด้วย พอเดินไปใน Big C สักพักเราก็ได้อาหารเช้ามาเป็นขนมปังหมูหยอง ขนมปังแผ่น ขนมไหว้พระจันทร์ทุเรียนไข่ (อันนี้ของใครเอ่ย..อิ ๆ) ขนมเปี๊ยะบัวหิมะถั่วแดง แซนวิชมายองเนสหมู ฯลฯ (บางท่านอ่านเสร็จอาจจะคิดว่าเราตุนถึง 1 อาทิตย์เลยหรือเปล่าเนี่ย)
เมื่อเสร็จกับการเลือกซื้ออาหารเช้าวันพรุ่งนี้เสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้ากลับมาโรงแรมอีกทีเลยครับ สำหรับห้องพักในวันนี้ก็ถือว่าถ้าเทียบกับโรงแรมต่าง ๆ ก็ถือว่าระดับกลางแต่ส่วนตัวของกระผมค่อนข้าง OK พอสมควรนะครับ และที่โรงแรมนี้ยังมี WiFi Internet ฟรีอีกด้วย (จะได้ส่งงานซะทีนะเรา) และในช่วงก่อนนอนผมก็ได้เช็คข่าวแล้วครับว่าข่าวเรื่องรถไฟตกรางและชนกันมีสาเหตุมาจากการหลับในของผู้ขับรถไฟนั่นเอง ท่านที่ติดตามเรื่อง CSR มาพอสมควรก็คงจะทราบแล้วนะครับถึงการทำ CSR Work In Process สำคัญไฉน (ขนาดขาดแค่ CSR เบื้องต้นสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตลูกค้าเลยนะครับเนี่ย) หลังดูข่าวเสร็จผมก็ไปอาบน้ำและรีบหลับทันทีเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อการทำงาน CSR Campus พรุ่งนี้ต่อไป
ในวันต่อมากระผมก็ตื่นสายนิดนึงนะวันนี้เพราะตื่นประมาณ 6.30 น.รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วทันที และในช่วงพี่บอยอาบน้ำผมก็รีบรับประทานอาหารเช้าทันที เพราะต้องยกอุปกรณ์จากรถตู้ขึ้นสู่ห้องประชุมชั้น 4 อีกครั้งหนึ่ง (แม้ว่าจะมีพนักงานมาช่วยแต่ก็ไม่พออยู่ดี) กระผมก็ถือว่าเป็นการมองโลกในแง่ดีแล้วกันเพราะปกติไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกายก็ถือว่าเป็นการเล่นฟิตเนสเลยแล้วกัน หลังจากขนเสร็จแล้วตอนนี้กระผมเริ่มคิดแล้วว่าจะไม่มีทางลงไปชั้นล่างเด็ดขาดเพราะเหนื่อยมาก แต่ว่าห้องประชุมชั้น 4 ก็มีทุกอย่างนะครับ เช่น ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องพักเบรก ฯลฯ หลังจากทำการเตรียมงาน CSR Campus เสร็จสักพักก็เริ่มมีผู้เข้าฟังชาวลำพูนทยอยกันเข้ามาแล้วครับ วันนี้ผู้เข้าฟังจะมีแต่ภาคธุรกิจเท่านั้นไม่ค่อยมีภาคสถานศึกษาสักเท่าไร
มาถึงช่วงกิจกรรมหน้าที่พลเมืองซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวลำพูนดังนี้ อาทิ การเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนในศาสนาอย่างเคร่งครัด เพราะดิฉันมีการยึดศีล 5 เป็นแนวปฏิบัติเพราะศีล 5 จะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ให้การกระทำที่ไม่ดีและยังทำให้เกิดผลดีในแง่ต่าง ๆ อีกด้วย ส่วนท่านอีกท่านหนึ่งได้เลือกข้อการเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรมด้วยการประกอบอาชีพหลักอย่างสุจริตโดยไม่ต้องคดโกง แถมยังได้ประกอบธุรกิจเสริมที่ถูกต้องและไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย ส่วนเรื่องพลเมืองบรรษัทได้เลือกหัวข้อการส่งเสริมให้พนักงานมีศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมทั้งใช้เป็นหลักในการทำงานและการดำเนินชีวิต เพราะถ้าหากพนักงานในบริษัทมีศาสนาธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจะเป็นผู้ที่มี หิริโอตตัปปะ (ละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาปนั่นเอง) ส่วนอีกข้อคือการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเพราะจะมีส่วนช่วยทำให้สังคมน่าอยู่ เนื่องจากปัจจุบันยังมีหลายธุรกิจที่พยายามหลีกเลี่ยงกฎหมายเพื่อลดต้นทุนให้กับธุรกิจตนเองอยู่
กิจกรรมต่อมา คือ กิจกรรม CSR เชิงระบบซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้เช่น การสร้างความเข้าใจในเรื่อง CSR ขององค์กรโดยจะจัดเป็นกิจกรรมสัปดาห์ CSR ขึ้นมาโดยเน้นมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้ CSR ที่ชัดเจน การจัดสร้างโครงการ CSR สำหรับพนักงาน จัดนิทรรศการ และสุดท้ายก็มีการตอบปัญหาชิงรางวัล ส่วนอีกหัวคือการสร้างความเข้าใจเรื่อง CSR ขององค์กรเช่นกัน ด้วยการจัดกิจกรรมประกวดบุคคลต้นแบบด้าน CSR ในองค์กร รวมถึงการจัดอบรมและนิทรรศการต่าง ๆ ทางด้าน CSR โดยระยะเวลาจัดประมาณ 1 เดือนต่อ 1 ปี
และในช่วงกิจกรรมสุดท้ายคือกิจกรรม Creative CSR มีโครงการที่ได้รับความสนใจจากชาวลำพูนดังนี้เช่น “โครงการนครบุญหริภุญชัย สายใยไทยยอง” (ทีแรกเข้าใจว่าไทยยองคือชาวไทยจังหวัดระยอง แต่ที่ไหนได้เป็นคนท้องถิ่นหนึ่งของจังหวัดลำพูน)โดยเริ่มจากการวิเคราะห์สถานการณ์และสำรวจข้อมูลแหล่งวัฒนธรรมไทยยอง คัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมและสำคัญ ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยสื่อต่าง ๆ ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ
ต่อมาเป็น"โครงการเที่ยวลำพูน เมืองโบราณ พันสี่ร้อยปี" โดยเริ่มจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณเมืองโบราณ และจัดรูปแบบการท่องเที่ยวเป็นแบบ Home Stay โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น ภาครัฐ และเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ให้เป็นวงกว้าง รวมถึงการสร้างจุดบริการนักท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าวด้วย
ส่วนโครงการสุดท้ายคือ"โครงการลำพูนจะก้าวไกลถ้าร่วมใจพัฒนา" โดยโครงการนี้จะเน้นการใช้หลักอริยสัจ 4 ในการแก้ไขปัญหาสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมโดยเริ่มจากการหาพื้นที่ต้นแบบในแต่ละอำเภอเพื่อหาจุดเด่น สร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นใหม่ ๆ ในอำเภอต่าง ๆ ด้วยการลดการใช้พลังงาน ทำทัวร์ท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนให้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อีกด้วย
วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์สมเพชร ปูระณะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสันต้นธงซึ่งอาจารย์ได้กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้เรื่อง CSR แต่หลังจากฟังการบรรยายวันนี้ทำให้รู้ว่า CSR จะเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรทั้งภาครัฐและธุรกิจหากองค์กรใดมีการดำเนินการโดยยึด CSR เป็นหลักจะทำให้องค์กรนั้นประสบความสำเร็จแน่นอน ส่วนพลเมืองบรรษัทตรงกับมาตรฐานของ สมศ. ที่กำหนดให้นักเรียนต้องมีวินัย ความรู้ คุณธรรม และหน้าที่ของตนเองด้วย หากนักเรียนขาดข้อใดข้อหนึ่งก็จะไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตรงนี้อีกด้วย”
และวันนี้งาน CSR Campus ที่จังหวัดลำพูนก็เสร็จสิ้นแล้วครับ หลังจากเสร็จผมวิ่งไปหาทีมงานสาวเพื่อขอยาแก้เมารถก่อนเพื่อนเลยครับ เพราะจังหวัดต่อไปที่เราจะต้องเดินทางไปจัดงาน คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (กว่าจะถึงโค้งประมาณหลักพันกว่าโค้งเห็นจะได้ หากไม่ทานยาก็คงเสี่ยงต่อการพ่นซีรีแล็กซ์ใส่รถพี่รถตู้เป็นอย่างยิ่ง) และเส้นทางที่เราใช้เดินทาง คือ เส้นแม่ริมครับ ซึ่งทางทีมงานได้แวะไปบ้านพี่บอยซะด้วย บริเวณบ้านกว้างมากครับมีทั้งสวนผลไม้ประกอบกันโดยเนินขึ้นบ้านเป็นโค้งที่สามารถฝึก Drift รถได้อย่างดี หลังจากแวะบ้านพี่บอยเสร็จทางคุณแม่พี่บอยก็ได้มอบการบูรและกล้วยมาทานบนรถด้วย (ขอบคุณคุณแม่มากครับ) ตอนนี้ทีมงานเราก็เตรียมมุ่งหน้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นสถานีต่อไปครับ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ
หลังจากเราดูห้องประชุมกันเรียบร้อยเราเดินลงบันไดมาชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวออกไปทานอาหารเย็นต่อไป ซึ่งก่อนจะออกไปทางเราก็ Check เรื่องอาหารเช้าพวกเราจากทางโรงแรม แต่ทางโรงแรมก็ไม่มีให้แต่อย่างใด มีแต่กาแฟเท่านั้น ตอนนี้รถตู้เราก็เริ่มออกตัวไปยังร้านอาหารเป้าหมายนั่นก็คือ ร้านไอศกรีมบ้านสวน อย่าแปลกใจนะครับว่าเราคิดจะไดเอ็ททานไอศกรีมแทนข้าว (ยิ่งอ้วนกว่าเดิมอีกมั้งเนี่ย) แต่ร้านไอศกรีมบ้านสวนขายอาหารเหมือนร้านทั่วไปแหละครับ หลังเข้ามาในร้านบรรยากาศก็ดูเป็นบ้านสวนมาก หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยตอนนี้เราก็มุ่งไป Big C เลยครับเพื่อไปซื้อข้าวเช้าของพรุ่งนี้ด้วย พอเดินไปใน Big C สักพักเราก็ได้อาหารเช้ามาเป็นขนมปังหมูหยอง ขนมปังแผ่น ขนมไหว้พระจันทร์ทุเรียนไข่ (อันนี้ของใครเอ่ย..อิ ๆ) ขนมเปี๊ยะบัวหิมะถั่วแดง แซนวิชมายองเนสหมู ฯลฯ (บางท่านอ่านเสร็จอาจจะคิดว่าเราตุนถึง 1 อาทิตย์เลยหรือเปล่าเนี่ย)
เมื่อเสร็จกับการเลือกซื้ออาหารเช้าวันพรุ่งนี้เสร็จแล้ว เราก็มุ่งหน้ากลับมาโรงแรมอีกทีเลยครับ สำหรับห้องพักในวันนี้ก็ถือว่าถ้าเทียบกับโรงแรมต่าง ๆ ก็ถือว่าระดับกลางแต่ส่วนตัวของกระผมค่อนข้าง OK พอสมควรนะครับ และที่โรงแรมนี้ยังมี WiFi Internet ฟรีอีกด้วย (จะได้ส่งงานซะทีนะเรา) และในช่วงก่อนนอนผมก็ได้เช็คข่าวแล้วครับว่าข่าวเรื่องรถไฟตกรางและชนกันมีสาเหตุมาจากการหลับในของผู้ขับรถไฟนั่นเอง ท่านที่ติดตามเรื่อง CSR มาพอสมควรก็คงจะทราบแล้วนะครับถึงการทำ CSR Work In Process สำคัญไฉน (ขนาดขาดแค่ CSR เบื้องต้นสามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตลูกค้าเลยนะครับเนี่ย) หลังดูข่าวเสร็จผมก็ไปอาบน้ำและรีบหลับทันทีเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมต่อการทำงาน CSR Campus พรุ่งนี้ต่อไป
ในวันต่อมากระผมก็ตื่นสายนิดนึงนะวันนี้เพราะตื่นประมาณ 6.30 น.รีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วทันที และในช่วงพี่บอยอาบน้ำผมก็รีบรับประทานอาหารเช้าทันที เพราะต้องยกอุปกรณ์จากรถตู้ขึ้นสู่ห้องประชุมชั้น 4 อีกครั้งหนึ่ง (แม้ว่าจะมีพนักงานมาช่วยแต่ก็ไม่พออยู่ดี) กระผมก็ถือว่าเป็นการมองโลกในแง่ดีแล้วกันเพราะปกติไม่ค่อยได้มีเวลาออกกำลังกายก็ถือว่าเป็นการเล่นฟิตเนสเลยแล้วกัน หลังจากขนเสร็จแล้วตอนนี้กระผมเริ่มคิดแล้วว่าจะไม่มีทางลงไปชั้นล่างเด็ดขาดเพราะเหนื่อยมาก แต่ว่าห้องประชุมชั้น 4 ก็มีทุกอย่างนะครับ เช่น ห้องน้ำ ห้องอาหาร ห้องพักเบรก ฯลฯ หลังจากทำการเตรียมงาน CSR Campus เสร็จสักพักก็เริ่มมีผู้เข้าฟังชาวลำพูนทยอยกันเข้ามาแล้วครับ วันนี้ผู้เข้าฟังจะมีแต่ภาคธุรกิจเท่านั้นไม่ค่อยมีภาคสถานศึกษาสักเท่าไร
มาถึงช่วงกิจกรรมหน้าที่พลเมืองซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวลำพูนดังนี้ อาทิ การเป็นผู้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนในศาสนาอย่างเคร่งครัด เพราะดิฉันมีการยึดศีล 5 เป็นแนวปฏิบัติเพราะศีล 5 จะเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ให้การกระทำที่ไม่ดีและยังทำให้เกิดผลดีในแง่ต่าง ๆ อีกด้วย ส่วนท่านอีกท่านหนึ่งได้เลือกข้อการเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรมด้วยการประกอบอาชีพหลักอย่างสุจริตโดยไม่ต้องคดโกง แถมยังได้ประกอบธุรกิจเสริมที่ถูกต้องและไม่ผิดกฎหมายอีกด้วย ส่วนเรื่องพลเมืองบรรษัทได้เลือกหัวข้อการส่งเสริมให้พนักงานมีศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ รวมทั้งใช้เป็นหลักในการทำงานและการดำเนินชีวิต เพราะถ้าหากพนักงานในบริษัทมีศาสนาธรรมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจะเป็นผู้ที่มี หิริโอตตัปปะ (ละอายและเกรงกลัวต่อการทำบาปนั่นเอง) ส่วนอีกข้อคือการเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดเพราะจะมีส่วนช่วยทำให้สังคมน่าอยู่ เนื่องจากปัจจุบันยังมีหลายธุรกิจที่พยายามหลีกเลี่ยงกฎหมายเพื่อลดต้นทุนให้กับธุรกิจตนเองอยู่
กิจกรรมต่อมา คือ กิจกรรม CSR เชิงระบบซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้เช่น การสร้างความเข้าใจในเรื่อง CSR ขององค์กรโดยจะจัดเป็นกิจกรรมสัปดาห์ CSR ขึ้นมาโดยเน้นมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้ CSR ที่ชัดเจน การจัดสร้างโครงการ CSR สำหรับพนักงาน จัดนิทรรศการ และสุดท้ายก็มีการตอบปัญหาชิงรางวัล ส่วนอีกหัวคือการสร้างความเข้าใจเรื่อง CSR ขององค์กรเช่นกัน ด้วยการจัดกิจกรรมประกวดบุคคลต้นแบบด้าน CSR ในองค์กร รวมถึงการจัดอบรมและนิทรรศการต่าง ๆ ทางด้าน CSR โดยระยะเวลาจัดประมาณ 1 เดือนต่อ 1 ปี
และในช่วงกิจกรรมสุดท้ายคือกิจกรรม Creative CSR มีโครงการที่ได้รับความสนใจจากชาวลำพูนดังนี้เช่น “โครงการนครบุญหริภุญชัย สายใยไทยยอง” (ทีแรกเข้าใจว่าไทยยองคือชาวไทยจังหวัดระยอง แต่ที่ไหนได้เป็นคนท้องถิ่นหนึ่งของจังหวัดลำพูน)โดยเริ่มจากการวิเคราะห์สถานการณ์และสำรวจข้อมูลแหล่งวัฒนธรรมไทยยอง คัดเลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมและสำคัญ ประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยสื่อต่าง ๆ ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ
ต่อมาเป็น"โครงการเที่ยวลำพูน เมืองโบราณ พันสี่ร้อยปี" โดยเริ่มจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณเมืองโบราณ และจัดรูปแบบการท่องเที่ยวเป็นแบบ Home Stay โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเช่น ภาครัฐ และเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ให้เป็นวงกว้าง รวมถึงการสร้างจุดบริการนักท่องเที่ยวในบริเวณดังกล่าวด้วย
ส่วนโครงการสุดท้ายคือ"โครงการลำพูนจะก้าวไกลถ้าร่วมใจพัฒนา" โดยโครงการนี้จะเน้นการใช้หลักอริยสัจ 4 ในการแก้ไขปัญหาสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมโดยเริ่มจากการหาพื้นที่ต้นแบบในแต่ละอำเภอเพื่อหาจุดเด่น สร้างภูมิปัญญาท้องถิ่นใหม่ ๆ ในอำเภอต่าง ๆ ด้วยการลดการใช้พลังงาน ทำทัวร์ท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนให้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้อีกด้วย
วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์สมเพชร ปูระณะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสันต้นธงซึ่งอาจารย์ได้กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ก็ไม่รู้เรื่อง CSR แต่หลังจากฟังการบรรยายวันนี้ทำให้รู้ว่า CSR จะเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กรทั้งภาครัฐและธุรกิจหากองค์กรใดมีการดำเนินการโดยยึด CSR เป็นหลักจะทำให้องค์กรนั้นประสบความสำเร็จแน่นอน ส่วนพลเมืองบรรษัทตรงกับมาตรฐานของ สมศ. ที่กำหนดให้นักเรียนต้องมีวินัย ความรู้ คุณธรรม และหน้าที่ของตนเองด้วย หากนักเรียนขาดข้อใดข้อหนึ่งก็จะไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินตรงนี้อีกด้วย”
และวันนี้งาน CSR Campus ที่จังหวัดลำพูนก็เสร็จสิ้นแล้วครับ หลังจากเสร็จผมวิ่งไปหาทีมงานสาวเพื่อขอยาแก้เมารถก่อนเพื่อนเลยครับ เพราะจังหวัดต่อไปที่เราจะต้องเดินทางไปจัดงาน คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (กว่าจะถึงโค้งประมาณหลักพันกว่าโค้งเห็นจะได้ หากไม่ทานยาก็คงเสี่ยงต่อการพ่นซีรีแล็กซ์ใส่รถพี่รถตู้เป็นอย่างยิ่ง) และเส้นทางที่เราใช้เดินทาง คือ เส้นแม่ริมครับ ซึ่งทางทีมงานได้แวะไปบ้านพี่บอยซะด้วย บริเวณบ้านกว้างมากครับมีทั้งสวนผลไม้ประกอบกันโดยเนินขึ้นบ้านเป็นโค้งที่สามารถฝึก Drift รถได้อย่างดี หลังจากแวะบ้านพี่บอยเสร็จทางคุณแม่พี่บอยก็ได้มอบการบูรและกล้วยมาทานบนรถด้วย (ขอบคุณคุณแม่มากครับ) ตอนนี้ทีมงานเราก็เตรียมมุ่งหน้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นสถานีต่อไปครับ อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น