ตอนนี้พวกกระผมก็กำลังเดินทางไปจังหวัดสงขลาซึ่งจากคำบอกเล่าของทีมงานสาวว่างาน CSR Campus ของปีที่แล้วมีการวางระเบิดในละแวกใกล้โรงแรมของที่จัดงานปีที่แล้วอีกด้วย และในตอนนี้เวลาได้ผ่านมาประมาณ 1 ปีแล้ว ถ้าถามว่าวันนี้ทีมงานเรากลัวไหมก็ขอตอบอย่างจริงใจว่ากลัวครับ กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำอีกรอบเพราะฉะนั้นเมื่อเรามาถึงจังหวัดสงขลาเราจึงมุ่งสู่โรงแรมลีการ์เดนท์ทันทีครับ โดยในระหว่างเดินทางไปโรงแรมผมก็ได้เห็นความเจริญมากมายที่อยู่ในจังหวัดสงขลาในใจก็อยากจะลงไปเที่ยวใจจะขาด แต่อีกใจก็มองว่าหากตูมขึ้นมาจะทำยังไง (ตัดสินใจลำบากจริง ๆ) พอมาถึงโรงแรมเรียบร้อย ทีมงานของเราก็ต่างคนต่างไป Check In ห้องอย่างเรียบร้อย
หลังจากเข้าห้องพักผมก็เริ่มเคลียร์งาน Blog ทั้งหลายเพื่อให้เสร็จทันเวลา หลังจากทำไปไม่นานความง่วงก็เริ่มเข้ามาทำลายสมาธิของผม กระผมจึงเดินเพื่อไปอาบน้ำเพื่อปลุกความสดชื่นให้กลับมาอีกครั้งแต่หลังจากกระผมอาบเสร็จก็ง่วงเลยครับ จึงไปหยิบหนังสือ Money & Wealth มาอ่านเล่น ๆ เพื่อเตรียมตัวสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองเพราะยิ่งมีการสร้างวินัยการออมตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้เงินในอนาคตของกระผมมีการโอกาสเพิ่มพูนมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย (ขอศึกษาสภาพตลาดอีกสักพักล่ะกัน) โดยรูปแบบการออมก็สามารถผสมผสานได้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ หรือ กองทุนต่าง ๆ เป็นต้น หลังจากอ่านได้สักพักกระผมก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัวแล้วครับ
และเมื่อถึงเวลา 6.15 น.กระผมก็ตื่นขึ้นมางัวเงียแป๊บนึงและก็เริ่มไปดำเนินปฏิบัติภารกิจส่วนตัวและมานั่งพักเพื่อเสพข่าวสักพักซึ่งข่าววันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่พาดหัวไว้ตั้งแต่เมื่อวานไม่ว่าจะเป็นข่าวประหารพลโทชะลอ เกิดเทศ ซึ่งคดีดังกล่าวยืดเยื้อมาประมาณ 17 ปีเศษแล้ว (คดีดำเนินการยาวนานอย่างมาก) ข่าวฆาตกรฆ่าหั่นศพทั้งผู้หญิงและเด็ก (ฟังแล้วก็อนาถไปจึงไม่ค่อยสนใจฟังเท่าไร) และข่าวสุดท้ายก็คือตลาดหุ้นบ้านเราที่ถูกแรงเทขายจากต่างชาติทำให้ดัชนีตกมาเหลือ 690 จุดกว่า ๆ (ท่านที่จะเข้าตอนนี้ก็ต้องระวังซักนิดนะครับ เพราะว่าฝรั่งเขาถือหุ้นต้นทุนต่ำไว้เยอะ) หลังจากฟังข่าวมามากมายตอนนี้กระผมกับพี่บอยก็พร้อมทานอาหารเช้าที่โต๊ะอาหารแล้วครับ เมื่อทานเสร็จทางทีมงานจึงมุ่งตรงไปสู่ห้องจัดเลี้ยงทันทีโดยแขกในวันนี้มีมาจากองค์กรออมสินค่อนข้างเยอะพอสมควร กระผมจึงชวนคุยสักพักจึงได้เรื่องมาว่าส่วนใหญ่วันนี้ที่มาเป็นตำแหน่งระดับผู้จัดการทั้งนั้น เพราะที่จังหวัดสงขลาเป็นที่สังกัดของธนาคารออมสินระดับภาคอีกด้วย รวมถึงองค์กรต่าง ๆ วันนี้ก็มากันพอสมควรเช่นเดียวกัน
มาถึงช่วงกิจกรรมหน้าที่พลเมืองซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวจังหวัดสงขลาดังนี้ อาทิ การเป็นผู้มีความสัตย์ด้วยการที่ตนเองเป็นแผนกจัดซื้อซึ่งผู้เสนอขายบางท่านเสนอส่วนลดให้โดยไม่นำส่วนลดดังกล่าวมาเข้ากระเป๋าตนเองส่วน ส่วนอีกข้อ คือ เป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรม ด้วยการรับผิดชอบด้านการศึกษาอย่างเคร่งครัด มีความพากเพียรในการศึกษาเล่าเรียน คอยแสวงหาความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอด ส่วนพลเมืองบรรษัทอยากให้ธุรกิจเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายรวมถึงกฎระเบียบของท้องถิ่นโดยเคร่งครัดเพราะจะทำให้บ้านเมืองอยู่อย่างสงบสุข ส่วนอีกข้อ คือ อยากให้ธุรกิจส่งเสริมให้พนักงานมีศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะถ้าองค์กรตระหนักถึงศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจะทำให้ทั้งการดำเนินชีวิตและการทำงานเป็นไปอย่างมีความสุข และยังไม่ส่งผลกระทบไปสู่สิ่งแวดล้อม สังคม และประเทศชาติอีกด้วย
และเมื่อมาถึงกิจกรรม CSR เชิงระบบก็มีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้ เช่น การเข้าร่วมในความริเริ่มทาง CSR โดยสมัครใจโดยให้องค์กรเริ่มใส่ใจคนชรา เด็ก และผู้ด้อยโอกาส โดยเริ่มจากการรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นมาก่อนและต่อมาก็จะร่วมกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมให้สิ่งของต่าง ๆ กระจายสู่ผู้ด้อยโอกาสมากที่สุด ส่วนหัวข้อต่อมา คือ การสร้างความเข้าใจในเรื่อง CSR ขององค์กรโดยเริ่มจากการเผยแพร่ความหมายความรู้เกี่ยวกับ CSR โดยเริ่มเผยแพร่จากนักศึกษาในวิทยาลัย เพราะถ้านักศึกษาไม่เข้าใจ CSR และอยู่ดี ๆ มีกิจกรรม CSR ให้นักศึกษาได้ปฏิบัติจะทำให้นักศึกษาไม่เข้าใจกิจกรรมเลยว่าทำไปเพื่ออะไร ซึ่งจะส่งผลให้กิจกรรม CSR ในสถานศึกษาไม่เกิดความต่อเนื่องอีกด้วย
ในวันนี้ผมก็มีโอกาสสนทนากับอาจารย์ 3 ท่านซึ่งมาจากหลายสถาบันด้วยกันโดยท่านแรก คือ อาจารย์พรรณประไพ เบญจสุขสวัสดิ์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดสงขลาซึ่งได้กล่าวว่า “เดิมทีไม่เข้าใจเรื่อง CSR และคิดว่าเป็นเรื่องของธุรกิจเท่านั้น ซึ่งหลังฟังไปแล้วทำให้ทราบว่า CSR เป็นเรื่องของทุกภาคส่วนรวมถึงวันนี้ได้พานักศึกษาองค์การนักศึกษาวิชาชีพมาด้วยซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะนักศึกษาเหล่านี้จะสามารถนำเอาความรู้ CSR วันนี้ไปเผยแพร่ต่ออีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทสามารถเผยแพร่ได้เพราะปกติอาจารย์จะพร่ำสอนนักศึกษามาตลอดว่าสังคมจะเป็นระเบียบได้ต้องเริ่มจากวินัยจากตนเองก่อนเสมอ”
ส่วนอาจารย์ท่านต่อมา คือ อาจารย์กฤษฎา หนูประเสริฐ วิทยาลัยชุมชนสงขลา ได้กล่าวว่า “วันนี้ได้รับความรู้มากมาย ซึ่ง CSR เป็นหน้าที่หลักของวิทยาลัยชุมชนอยู่แล้ว ทั้งความรู้ CSR วันนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนอย่างมาก เพราะนักศึกษาทุกท่านทำงานแล้วก็จะสามารถนำความรู้วันนี้ไปปฏิบัติในการทำงานได้อีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทต้องเริ่มจากองค์กรก่อนในการรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและนำไปซึ่งการรับผิดชอบต่อสังคมไกลและสิ่งแวดล้อม”
ส่วนอาจารย์ท่านสุดท้ายวันนี้ คือ อาจารย์แจ่มใส ตั้งธรรม วิทยาลัยการอาชีพหลวงประทานราชวิกร ได้กล่าวว่า “ทีแรกเข้าใจว่าการทำ CSR คือความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเดียว แต่วันนี้ได้รู้เพิ่มมาว่า CSR เป็นการทำหน้าภายในองค์กรของเราอีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทต้องมีการถ่ายทอดสู่นักศึกษาได้อย่างแน่นอนผ่านรายวิชาการตลาดเพื่อสังคม และยังต้องนำไปเผยแพร่ต่อคณะครูอาจารย์อีกด้วยเพื่อให้วิทยาลัยสามารถทำ CSR อย่างแท้จริงและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อวิทยาลัยอีกด้วย”
มาถึงกิจกรรมสุดท้ายนั่นก็คือ กิจกรรม Creative CSR ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจสำหรับชาวจังหวัดสงขลาดังนี้เช่น “โครงการซิ่งด้วย ช่วยเมือง” โดยเริ่มจากรับสมัครกลุ่มเยาวชนที่มั่วสุมและชอบซิ่งรถกันมาก่อน โดยนำเยาวชนมาจัดแข่งรถภายในสถานที่ให้แข่งอย่างถูกต้อง ซึ่งในโครงการจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ในด้านกฎระเบียบจราจรอีกด้วย รวมถึงการสอนให้เยาวชนเหล่านี้สามารถดูแลความปลอดภัยในชุมชนเป็นสายให้ตำรวจในการเฝ้าระวังปัญหา และหากเยาวชนคนไหนทำหน้าที่ได้อย่างดีก็จะมีการเชิดชูเกียรติพร้อมทั้งมอบของรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจในการทำดีต่อไป
ส่วนโครงการต่อมา คือ “โครงการเยาวชนคนเก่งอาสาพาเที่ยว” โดยจังหวัดสงขลา ททท. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ มหาวิทยาลัย ร่วมกันดำเนินโครงการนี้ด้วยการผลิตยุวมัคคุเทศก์เป็นไกด์นำเที่ยวในพื้นที่ของอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดสงขลา โดยเปิดรับสมัครนักเรียนหรือนักศึกษาจากทุกอำเภอของจังหวัดสงขลามาเข้าโครงการนี้ ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้แก่ยุวมัคคุเทศก์เหล่านี้ในด้านทักษะการนำเที่ยว การใช้ภาษา และเป็นพี่เลี้ยงในการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวอีกด้วยโดยโครงการนี้จะทำให้เยาวชนในโครงการสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเสริมสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดสงขลาในด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
ส่วนโครงการสุดท้าย คือ “โครงการ Bicycle Bin คาราวานจัดการขยะ” โดยในตัวโครงการจะมีการร่วมจัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน เริ่มต้นดำเนินการโดยจุดประเด็นให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเรื่องขยะ และหลังจากนั้นก็จะมีการจัดนิทรรศการรวมถึงกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อร่วมกันเก็บขยะโดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้วย และหากผู้ใดสามารถเก็บขยะได้มากก็สามารถนำขยะดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของ เช่น ไข่ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เป็นต้น พร้อมกับมีการจัดประกวดและค้นหาว่าชุมชนใดได้ดำเนินการแยกขยะและสามารถจัดการได้ดีโดยมีเกณฑ์กำหนดอีกด้วย
และในที่สุด CSR Campus จังหวัดสงขลาวันนี้ก็สำเร็จด้วยดีและในขณะที่กระผมกำลังรอเคลียร์ของภายในโรงแรมอยู่ กระผมก็ได้ไปชวนแม่บ้านท่านหนึ่งคุยด้วยในเรื่องของความปลอดภัยในจังหวัดสงขลา (ยังไม่หายสงสัยจากเมื่อวาน) ซึ่งแม่บ้านท่านนี้บอกไม่ต้องกลัวหรอก แถวนี้ เดี๋ยวนี้ มีแต่ความปลอดภัยแล้ว สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายใจได้เลยรับประกันเพราะปกติป้าทำงานอยู่ที่นี่ก็ต้องกลับบ้านดึกอีกด้วยยังไม่เคยเกิดอันตรายกับป้าสักครั้งเลย (เริ่มสบายใจขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้วเรา) โดยบริเวณที่คุณป้าคิดว่าอันตรายน่าจะเป็นอำเภอที่มีอาณาเขตติดกับจังหวัดปัตตานีมากกว่า โดยในวันนี้ก็มีคณะครูอาจารย์ที่ขอกลับก่อนด้วยเพราะบริเวณที่อาศัยเป็นพื้นที่สีแดงถ้าหากกลับตามเวลาจะทำให้ไปถึงบ้านมืดและอาจเกิดอันตรายเกิดขึ้นได้ด้วย (เสียดายความรู้แทนอาจารย์เลยแต่ก็ต้องมองชีวิตเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแหละครับ)
จากนั้นเราก็เริ่มมุ่งหน้าหาของทานตอนเย็นต่อโดยวันนี้เราไปฝากท้องที่ร้านไก่ทอดปรีชาครับ แหม ไก่ทอดอร่อยได้ใจจริง ๆ ส่วนกระผมสั่งไก่กอและ (เนื้ออกไก่ราดซอสบาร์บีคิว) ซึ่งทีแรกทางร้านได้บอกว่าสิ่งนี้คือ ไก่จ๊อ กระผมก็รู้สึกงงเล็กน้อยเลยครับแต่ตอนหลังก็มารู้ว่าแม่ค้าพูดผิดก็เลยฮากันไปทั้งคนสั่งและแม่ค้า และศัพท์วันนี้ที่ผมได้รู้เพิ่มขึ้นมาก็คือที่นี่เรียกผลไม้รวมว่า "ส้ม" ครับ แม้ว่าในผลไม้รวมจะไม่มีส้มสักชิ้นแต่ก็ยังเรียกว่าส้มครับ เหอ ๆ แปลกไปอีกแบบ แล้วถ้าจะสั่งส้มเป็นลูกจริงๆต้องบอกว่าอะไรน้อ... และวันนี้เราก็จะไปพักที่จังหวัดกระบี่เพื่อสมทบกับทีมคุณแม๊กซ์อีกครั้งด้วยครับ อย่าลืมติดตามนะครับว่าจังหวัดต่อไปคือจังหวัดอะไร
หลังจากเข้าห้องพักผมก็เริ่มเคลียร์งาน Blog ทั้งหลายเพื่อให้เสร็จทันเวลา หลังจากทำไปไม่นานความง่วงก็เริ่มเข้ามาทำลายสมาธิของผม กระผมจึงเดินเพื่อไปอาบน้ำเพื่อปลุกความสดชื่นให้กลับมาอีกครั้งแต่หลังจากกระผมอาบเสร็จก็ง่วงเลยครับ จึงไปหยิบหนังสือ Money & Wealth มาอ่านเล่น ๆ เพื่อเตรียมตัวสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองเพราะยิ่งมีการสร้างวินัยการออมตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้เงินในอนาคตของกระผมมีการโอกาสเพิ่มพูนมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย (ขอศึกษาสภาพตลาดอีกสักพักล่ะกัน) โดยรูปแบบการออมก็สามารถผสมผสานได้อย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น ตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารอนุพันธ์ หรือ กองทุนต่าง ๆ เป็นต้น หลังจากอ่านได้สักพักกระผมก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัวแล้วครับ
และเมื่อถึงเวลา 6.15 น.กระผมก็ตื่นขึ้นมางัวเงียแป๊บนึงและก็เริ่มไปดำเนินปฏิบัติภารกิจส่วนตัวและมานั่งพักเพื่อเสพข่าวสักพักซึ่งข่าววันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นข่าวที่พาดหัวไว้ตั้งแต่เมื่อวานไม่ว่าจะเป็นข่าวประหารพลโทชะลอ เกิดเทศ ซึ่งคดีดังกล่าวยืดเยื้อมาประมาณ 17 ปีเศษแล้ว (คดีดำเนินการยาวนานอย่างมาก) ข่าวฆาตกรฆ่าหั่นศพทั้งผู้หญิงและเด็ก (ฟังแล้วก็อนาถไปจึงไม่ค่อยสนใจฟังเท่าไร) และข่าวสุดท้ายก็คือตลาดหุ้นบ้านเราที่ถูกแรงเทขายจากต่างชาติทำให้ดัชนีตกมาเหลือ 690 จุดกว่า ๆ (ท่านที่จะเข้าตอนนี้ก็ต้องระวังซักนิดนะครับ เพราะว่าฝรั่งเขาถือหุ้นต้นทุนต่ำไว้เยอะ) หลังจากฟังข่าวมามากมายตอนนี้กระผมกับพี่บอยก็พร้อมทานอาหารเช้าที่โต๊ะอาหารแล้วครับ เมื่อทานเสร็จทางทีมงานจึงมุ่งตรงไปสู่ห้องจัดเลี้ยงทันทีโดยแขกในวันนี้มีมาจากองค์กรออมสินค่อนข้างเยอะพอสมควร กระผมจึงชวนคุยสักพักจึงได้เรื่องมาว่าส่วนใหญ่วันนี้ที่มาเป็นตำแหน่งระดับผู้จัดการทั้งนั้น เพราะที่จังหวัดสงขลาเป็นที่สังกัดของธนาคารออมสินระดับภาคอีกด้วย รวมถึงองค์กรต่าง ๆ วันนี้ก็มากันพอสมควรเช่นเดียวกัน
มาถึงช่วงกิจกรรมหน้าที่พลเมืองซึ่งมีหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับชาวจังหวัดสงขลาดังนี้ อาทิ การเป็นผู้มีความสัตย์ด้วยการที่ตนเองเป็นแผนกจัดซื้อซึ่งผู้เสนอขายบางท่านเสนอส่วนลดให้โดยไม่นำส่วนลดดังกล่าวมาเข้ากระเป๋าตนเองส่วน ส่วนอีกข้อ คือ เป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพของตนเองโดยชอบธรรม ด้วยการรับผิดชอบด้านการศึกษาอย่างเคร่งครัด มีความพากเพียรในการศึกษาเล่าเรียน คอยแสวงหาความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอด ส่วนพลเมืองบรรษัทอยากให้ธุรกิจเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายรวมถึงกฎระเบียบของท้องถิ่นโดยเคร่งครัดเพราะจะทำให้บ้านเมืองอยู่อย่างสงบสุข ส่วนอีกข้อ คือ อยากให้ธุรกิจส่งเสริมให้พนักงานมีศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะถ้าองค์กรตระหนักถึงศาสนธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจะทำให้ทั้งการดำเนินชีวิตและการทำงานเป็นไปอย่างมีความสุข และยังไม่ส่งผลกระทบไปสู่สิ่งแวดล้อม สังคม และประเทศชาติอีกด้วย
และเมื่อมาถึงกิจกรรม CSR เชิงระบบก็มีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้ เช่น การเข้าร่วมในความริเริ่มทาง CSR โดยสมัครใจโดยให้องค์กรเริ่มใส่ใจคนชรา เด็ก และผู้ด้อยโอกาส โดยเริ่มจากการรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นมาก่อนและต่อมาก็จะร่วมกับหน่วยงานส่วนท้องถิ่นเพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมให้สิ่งของต่าง ๆ กระจายสู่ผู้ด้อยโอกาสมากที่สุด ส่วนหัวข้อต่อมา คือ การสร้างความเข้าใจในเรื่อง CSR ขององค์กรโดยเริ่มจากการเผยแพร่ความหมายความรู้เกี่ยวกับ CSR โดยเริ่มเผยแพร่จากนักศึกษาในวิทยาลัย เพราะถ้านักศึกษาไม่เข้าใจ CSR และอยู่ดี ๆ มีกิจกรรม CSR ให้นักศึกษาได้ปฏิบัติจะทำให้นักศึกษาไม่เข้าใจกิจกรรมเลยว่าทำไปเพื่ออะไร ซึ่งจะส่งผลให้กิจกรรม CSR ในสถานศึกษาไม่เกิดความต่อเนื่องอีกด้วย
ในวันนี้ผมก็มีโอกาสสนทนากับอาจารย์ 3 ท่านซึ่งมาจากหลายสถาบันด้วยกันโดยท่านแรก คือ อาจารย์พรรณประไพ เบญจสุขสวัสดิ์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาจังหวัดสงขลาซึ่งได้กล่าวว่า “เดิมทีไม่เข้าใจเรื่อง CSR และคิดว่าเป็นเรื่องของธุรกิจเท่านั้น ซึ่งหลังฟังไปแล้วทำให้ทราบว่า CSR เป็นเรื่องของทุกภาคส่วนรวมถึงวันนี้ได้พานักศึกษาองค์การนักศึกษาวิชาชีพมาด้วยซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเพราะนักศึกษาเหล่านี้จะสามารถนำเอาความรู้ CSR วันนี้ไปเผยแพร่ต่ออีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทสามารถเผยแพร่ได้เพราะปกติอาจารย์จะพร่ำสอนนักศึกษามาตลอดว่าสังคมจะเป็นระเบียบได้ต้องเริ่มจากวินัยจากตนเองก่อนเสมอ”
ส่วนอาจารย์ท่านต่อมา คือ อาจารย์กฤษฎา หนูประเสริฐ วิทยาลัยชุมชนสงขลา ได้กล่าวว่า “วันนี้ได้รับความรู้มากมาย ซึ่ง CSR เป็นหน้าที่หลักของวิทยาลัยชุมชนอยู่แล้ว ทั้งความรู้ CSR วันนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนอย่างมาก เพราะนักศึกษาทุกท่านทำงานแล้วก็จะสามารถนำความรู้วันนี้ไปปฏิบัติในการทำงานได้อีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทต้องเริ่มจากองค์กรก่อนในการรับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและนำไปซึ่งการรับผิดชอบต่อสังคมไกลและสิ่งแวดล้อม”
ส่วนอาจารย์ท่านสุดท้ายวันนี้ คือ อาจารย์แจ่มใส ตั้งธรรม วิทยาลัยการอาชีพหลวงประทานราชวิกร ได้กล่าวว่า “ทีแรกเข้าใจว่าการทำ CSR คือความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเดียว แต่วันนี้ได้รู้เพิ่มมาว่า CSR เป็นการทำหน้าภายในองค์กรของเราอีกด้วย ส่วนพลเมืองบรรษัทต้องมีการถ่ายทอดสู่นักศึกษาได้อย่างแน่นอนผ่านรายวิชาการตลาดเพื่อสังคม และยังต้องนำไปเผยแพร่ต่อคณะครูอาจารย์อีกด้วยเพื่อให้วิทยาลัยสามารถทำ CSR อย่างแท้จริงและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อวิทยาลัยอีกด้วย”
มาถึงกิจกรรมสุดท้ายนั่นก็คือ กิจกรรม Creative CSR ซึ่งมีโครงการที่น่าสนใจสำหรับชาวจังหวัดสงขลาดังนี้เช่น “โครงการซิ่งด้วย ช่วยเมือง” โดยเริ่มจากรับสมัครกลุ่มเยาวชนที่มั่วสุมและชอบซิ่งรถกันมาก่อน โดยนำเยาวชนมาจัดแข่งรถภายในสถานที่ให้แข่งอย่างถูกต้อง ซึ่งในโครงการจะมีการจัดอบรมให้ความรู้ในด้านกฎระเบียบจราจรอีกด้วย รวมถึงการสอนให้เยาวชนเหล่านี้สามารถดูแลความปลอดภัยในชุมชนเป็นสายให้ตำรวจในการเฝ้าระวังปัญหา และหากเยาวชนคนไหนทำหน้าที่ได้อย่างดีก็จะมีการเชิดชูเกียรติพร้อมทั้งมอบของรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจในการทำดีต่อไป
ส่วนโครงการต่อมา คือ “โครงการเยาวชนคนเก่งอาสาพาเที่ยว” โดยจังหวัดสงขลา ททท. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ มหาวิทยาลัย ร่วมกันดำเนินโครงการนี้ด้วยการผลิตยุวมัคคุเทศก์เป็นไกด์นำเที่ยวในพื้นที่ของอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดสงขลา โดยเปิดรับสมัครนักเรียนหรือนักศึกษาจากทุกอำเภอของจังหวัดสงขลามาเข้าโครงการนี้ ซึ่งจะมีการจัดอบรมให้แก่ยุวมัคคุเทศก์เหล่านี้ในด้านทักษะการนำเที่ยว การใช้ภาษา และเป็นพี่เลี้ยงในการจัดโปรแกรมการท่องเที่ยวอีกด้วยโดยโครงการนี้จะทำให้เยาวชนในโครงการสามารถใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเสริมสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดสงขลาในด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
ส่วนโครงการสุดท้าย คือ “โครงการ Bicycle Bin คาราวานจัดการขยะ” โดยในตัวโครงการจะมีการร่วมจัดโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน เริ่มต้นดำเนินการโดยจุดประเด็นให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเรื่องขยะ และหลังจากนั้นก็จะมีการจัดนิทรรศการรวมถึงกิจกรรมปั่นจักรยานเพื่อร่วมกันเก็บขยะโดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนด้วย และหากผู้ใดสามารถเก็บขยะได้มากก็สามารถนำขยะดังกล่าวมาแลกเปลี่ยนเป็นสิ่งของ เช่น ไข่ เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เป็นต้น พร้อมกับมีการจัดประกวดและค้นหาว่าชุมชนใดได้ดำเนินการแยกขยะและสามารถจัดการได้ดีโดยมีเกณฑ์กำหนดอีกด้วย
และในที่สุด CSR Campus จังหวัดสงขลาวันนี้ก็สำเร็จด้วยดีและในขณะที่กระผมกำลังรอเคลียร์ของภายในโรงแรมอยู่ กระผมก็ได้ไปชวนแม่บ้านท่านหนึ่งคุยด้วยในเรื่องของความปลอดภัยในจังหวัดสงขลา (ยังไม่หายสงสัยจากเมื่อวาน) ซึ่งแม่บ้านท่านนี้บอกไม่ต้องกลัวหรอก แถวนี้ เดี๋ยวนี้ มีแต่ความปลอดภัยแล้ว สามารถเดินเที่ยวได้อย่างสบายใจได้เลยรับประกันเพราะปกติป้าทำงานอยู่ที่นี่ก็ต้องกลับบ้านดึกอีกด้วยยังไม่เคยเกิดอันตรายกับป้าสักครั้งเลย (เริ่มสบายใจขึ้นมาหน่อยหนึ่งแล้วเรา) โดยบริเวณที่คุณป้าคิดว่าอันตรายน่าจะเป็นอำเภอที่มีอาณาเขตติดกับจังหวัดปัตตานีมากกว่า โดยในวันนี้ก็มีคณะครูอาจารย์ที่ขอกลับก่อนด้วยเพราะบริเวณที่อาศัยเป็นพื้นที่สีแดงถ้าหากกลับตามเวลาจะทำให้ไปถึงบ้านมืดและอาจเกิดอันตรายเกิดขึ้นได้ด้วย (เสียดายความรู้แทนอาจารย์เลยแต่ก็ต้องมองชีวิตเป็นเรื่องสำคัญที่สุดแหละครับ)
จากนั้นเราก็เริ่มมุ่งหน้าหาของทานตอนเย็นต่อโดยวันนี้เราไปฝากท้องที่ร้านไก่ทอดปรีชาครับ แหม ไก่ทอดอร่อยได้ใจจริง ๆ ส่วนกระผมสั่งไก่กอและ (เนื้ออกไก่ราดซอสบาร์บีคิว) ซึ่งทีแรกทางร้านได้บอกว่าสิ่งนี้คือ ไก่จ๊อ กระผมก็รู้สึกงงเล็กน้อยเลยครับแต่ตอนหลังก็มารู้ว่าแม่ค้าพูดผิดก็เลยฮากันไปทั้งคนสั่งและแม่ค้า และศัพท์วันนี้ที่ผมได้รู้เพิ่มขึ้นมาก็คือที่นี่เรียกผลไม้รวมว่า "ส้ม" ครับ แม้ว่าในผลไม้รวมจะไม่มีส้มสักชิ้นแต่ก็ยังเรียกว่าส้มครับ เหอ ๆ แปลกไปอีกแบบ แล้วถ้าจะสั่งส้มเป็นลูกจริงๆต้องบอกว่าอะไรน้อ... และวันนี้เราก็จะไปพักที่จังหวัดกระบี่เพื่อสมทบกับทีมคุณแม๊กซ์อีกครั้งด้วยครับ อย่าลืมติดตามนะครับว่าจังหวัดต่อไปคือจังหวัดอะไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น