วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

พัทลุง

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้อง! เราได้กลับมาเจอกันอีกแล้วนะครับ กับหนุ่มอารมณ์ดี (ไม่มีใครชม ชมตัวเอง) กระผมนายแม็กซ์มารายงานตัวครับผม! ทุกๆ คนในทีมของอาจารย์วุฒิพงศ์และอาจารย์ฌานสิทธิ์ ได้มารวมตัวกันที่ทำงาน ทักทายเฮฮาอย่างเป็นกันเองทีเดียว โดยทุกท่านแต่งตัว ทำท่าเหมือนเราจะหยุดไปเที่ยว Long Weekend ยังงั้นแหละ ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรกันเลย ไปเที่ยวไหน วางแผนไปไหนบ้าง ตรงไหนสวย คำถามยิงออกมาเรื่อยๆ เลยครับ เราจะเดินทางลงใต้กันนะ ไม่ได้กลัวระเบิดหรือปืนกันเลยเหรอไง ส่วนผมก็นั่งดีดกีตาร์รออย่างสบายอารมณ์ ปราศจากความกลัวเช่นกัน การเดินทางครั้งนี้เราจะไปยาวเลยครับ จะไม่ได้กลับบ้านประมาณ 10 วัน มีสิ่งพิเศษอยู่ คือ ทั้งสองทีมนั้นได้ผู้ช่วยเพิ่มมาอีกทีมละหนึ่งคน โดยทีมอาจารย์วุฒิพงศ์ได้ น้องโอ๋ (น้องสาวอาจารย์พงศ์) มาสมทบ ส่วนทีมอาจารย์ฌานสิทธิ์ได้ น้องตอง ซึ่งเธอมีอำนาจในการออกคำสั่งท่านพี่หนึ่งของผมอย่างมาก ฮ่าๆๆ พี่หนึ่งคงแผงฤทธิ์ไม่ออกในทริปนี้เป็นแน่

เราได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่แดนใต้ทันที ก็ได้แวะปั๊มเข้าห้องน้ำ ทานข้าว (ไม่ใช่ที่ห้องน้ำนะ (-_-‘)) ระหว่างเดินทางนั้นทีมของผม ได้มีการศึกษาภาษาอังกฤษจาก VCD ไปในตัว Chris Unseen มีท่านได้ดูแล้วจะรู้เลยว่า การเรียนภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด ทั้งยังสนุกสนาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทั้ง Teacher and Student นี่เอามาใช้ซะเลย อาจารย์ Christopher Wright ครับ เป็นการ Talk Show ที่ผมนับถือเลยระยะเวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ ที่ไม่เบื่อเลย ทีมงานแต่ละคนขำกันไม่หยุด ฮ่าๆ ใครที่ยังไม่ได้ชมกันก็หาซื้อได้ตามร้านขาย VCD, DVD ทั่วไป ผมแนะนำอย่างยิ่ง คนไทยที่ได้ลองชมคิดว่าล้วนแล้วแต่อยากจะเรียนภาษาต่างประเทศขึ้นมาเลยทีเดียว ผมจึงลักจำวิธีการพูด รูปแบบการพูดมาประยุกต์ใช้บ้าง ในการออกอบรมแต่ละที่อาจจะได้ลองใช้แนวของท่านบ้าง

ระยะเวลาอันยาวนานในการเดินทางหดสั้นลงเรื่อยๆ เมื่อเราเดินทางเข้าใกล้จุดหมายเต็มที มีคำถามเกิดขึ้นจากพี่คนขับรถ มีแผนที่ไหม ไม่มี.... รู้ว่าโรงแรมอยู่ใกล้ๆ ท่ารถนะค่ะ.... มีข้อมูลแค่นี้ เหอๆๆ มืดด้วย เอาละซิ และแล้วก็ลองดูครับเลี้ยวซ้ายเข้ามา เห็นชื่อโรงแรมอยู่ ใกล้กับท่ารถ มีโรงแรมเดียว คือ โรงแรมวังโนรา จังหวัดพัทลุงครับ เรามาถึงก็ดึกมากๆ แล้วผมจึงไม่รู้ว่ารอบๆ นั้นสวยรึป่าว เข้าห้องพักกันเรียบร้อย ก็ทันดูข่าว 3 มิติ พอดีมีข่าวฆาตกรรม หั่นศพ โอว...มนุษย์เรามันกล้าที่จะทำได้ยังไง แค่หั่นเนื้อไก่เป็นตัวผมก็หลอนแล้ว สังคมเรามันเพี้ยนไปแล้วจริงๆ

เช้ารุ่งขึ้น อาจารย์วุฒิพงศ์ตื่นแต่เช้าแต่งตัว ดูมีพลังมากพร้อมที่จะบรรยายเต็มที่ หลังจากหายหวัดแล้ว ท่านได้เปิดหน้าต่างแล้วบอกให้ผมดูสัญลักษณ์ของที่นี่ นั่นคือเขาหัวแตก สวยดีครับแปลกด้วย เหมือนมันโดนระเบิดมาทำให้เป็นทรงนั้นเลย เขียวไปหมดครับ ถ้าเข้าไปใกล้ๆ คิดว่าทัศนียภาพจะงดงามกว่าในโรงแรมแน่นอน แต่ก็ต้องเลิกสนใจเพราะ เดี๋ยวจะสาย กลัวจะโดนดุเอาจาก สาวๆ ในทีมครับ จะว่าไปแล้ว ผมสองคน ไม่เคยที่จะลงไปก่อนพวกเธอได้เลย (o_+) แป่ว! แต่พวกเธอก็ไม่เคยปริปากบ่นครับ

พี่ๆ ได้รับลงทะเบียนอย่างขะมักเขม้น วันนี้ดูทุกคนเบาแรงทีเดียว (รึป่าว) เพราะมีคนมาช่วยเพิ่ม 1 คน การอบรมเริ่มจากดูสารคดี และกิจกรรมเล่นเกมจากผมเช่นเคย ผมได้กล่าวชมทุกท่านที่ จังหวัดพัทลุงว่า ประทับใจอย่างยิ่งเลย เพราะที่นี่เป็นที่แรกก็ว่าได้ ที่พูดง่าย มาถึงก็นั่งข้างหน้าให้เต็มก่อน ลงทะเบียนเสร็จก็เดินเข้า ไม่มีการยืนรอกันให้เสียเวลา หน้าตาดุแต่ใจดี มีวินัยด้วย ควรเอาเป็นแบบอย่างเป็นอย่างยิ่งครับ ตอนแรกผมคิดว่าจะพูดยากซะอีก การอบรมของอาจารย์เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ วันนี้ผู้มาอบรมก็ยกมือตอบในหลายๆ คำถามที่อาจารย์ได้ถามออกไป ดูให้ความสนใจดีมาก ทุกอย่างจึงดำเนินไปด้วยความราบรื่น

กิจกรรมหน้าที่พลเมืองของชาวจังหวัดพัทลุง จะพูดถึงในทุกๆ มุมมองและหัวข้อ เน้นไปในความเป็นผู้มีความพากเพียรแสวงหาเครื่องเลี้ยงชีพโดยชอบธรรม ต้องมีการใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา ไม่ทำการค้าที่คดโกง ช่วยกันทำงาน ต้องซื่อสัตย์ต่อผู้คนรอบข้าง ที่สำคัญทุกๆ คนต้องปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอย่างเคร่งครัด ช่วยเหลือองค์กร ในการประหยัด ลดการใช้พลังงานเท่าที่จะทำได้ คนรอบข้างเรา คนในชุมชนล้วนจะได้ประโยชน์ทั้งสิ้น อยากให้องค์กรแสดงความเป็นพลเมืองบรรษัท โดยการไม่ดำเนินกิจการที่สร้างความเสียหาย เคารพกฎหมาย ประกอบธุรกิจโดยชอบธรรม เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส สนับสนุนการดำเนินกิจการตามบทบาทที่เอื้ออำนวย ควรจะช่วยเหลือสังคม ร่วมกับทุกๆ คนในสังคม การที่องค์กรจะยืนอยู่ได้ต้องคำนึงถึงสิ่งอื่นๆ รอบตัวองค์กรด้วย ไม่ใช่นึกถึงแต่ผลประโยชน์ตนเอง

CSR เชิงระบบวันนี้ อยากให้เพิ่มความเข้าใจเรื่อง CSR ให้กับองค์กร อยากให้มีการอบรม โดยการเชิญวิทยากร ผู้มีความรู้ มาบรรยายให้พนักงานได้ตระหนักและเข้าใจ จะได้นำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างถูกต้อง อยากให้มีการสื่อสารเรื่อง CSR ด้วยวิธีการหลากหลายให้คนในองค์กรได้รู้ ให้มีการระดมความคิด มีการแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน นำไปสู่การปฏิบัติจริงในสังคม สร้างประโยชน์ให้สังคมได้ สื่อให้สังคมรู้อย่างทั่วถึง อยากให้ทุกคนมีมุมมองที่ถูกต้อง สังคมยอมรับในการทำงานของพนักงาน ถ้าทุกๆ คนได้รับความรู้แล้ว ก็จะไม่มีการคิดคดโกง ทุกๆ คนก็จะเริ่มอยู่ในศีลธรรม

สำหรับกิจกรรม Creative CSR ในวันนี้ เราได้โครงการที่มีชื่อฟังดูน่าสนใจอย่างยิ่งทั้ง 3 โครงการเลย ได้แก่ “โครงการดื่มน้ำแร่ แช่น้ำร้อน พักผ่อนเขาชัยสน” โดยเขาชัยสนมีแหล่งน้ำแร่อยู่ จะมีการต่อท่อจากบ่อน้ำแร่มาถึงสถานที่พักตากอากาศ จะได้มีน้ำแร่แช่กัน โดยไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่น สามารถนำน้ำแร่มาปั่นไฟด้วย เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ โฆษณาประชาสัมพันธ์ มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพ แบรนด์ของน้ำแร่จะเป็นที่จดจำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ส่งเสริมผลผลิตจากน้ำแร่ ได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน รายได้ประชาชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ผู้มาใช้บริการมีสุขภาพดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น

ต่อมา คือ “โครงการข้าวสังข์หยดลดมลพิษ ชีวจิตคู่สุขภาพ” รวมกลุ่มเกษตรกรในเขตพื้นที่ปลูกข้าวสังข์หยด ปลูกข้าวปลอดสารพิษ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม จัดหาผู้สนับสนุน เกี่ยวกับข้าวสังข์หยด ที่เป็นข้าวที่มีคุณค่าทางอาหารสูง เป็นข้าวพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของพัทลุง ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสารที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น วิตามิน B1-B12 เป็นต้น จะมีการสร้างงานในท้องถิ่น สุขภาพผู้บริโภคดีขึ้น ก่อให้เกิดการขยายงานสร้างอาชีพไปสู่กลุ่มชุมชนต่างๆ

และ “โครงการชีววิถี เงาะป่า ซาไก” เพื่อการอนุรักษ์ เงาะป่า ซึ่งกำลังจะสูญพันธ์ แต่ที่พัทลุงจะมีเงาะป่าอยู่ ช่วยเหลือให้พวกเผ่าซาไก มีการสร้างป่า ปลูกต้นไม้ให้มากขึ้นเพื่อเผ่าซาไก ได้ใช้ชีวิตร่วมกับสังคมปัจจุบันได้ แต่มีการใช้วิถีชีวิตแบบเก่า เพื่อเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น รักษาชนเผ่าดั่งเดิมเอาไว้ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวซาไกจะดีขึ้น เลิกเร่ร่อน สภาพแวดล้อมของป่าดีขึ้น

วันนี้ผมได้มีโอกาสสนทนากับอาจารย์มลฑา กุลฑล วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ซึ่งท่านกล่าวกับผมว่า “เป็นโครงการที่ดี ได้มาพบปะกับหน่วยงานต่างๆ ได้เข้าใจในการบริหารองค์กร ได้รับความรู้มากจากการเข้ารับฟัง คิดว่าการมาจัดกิจกรรมนี้ให้ที่นี่ดีมากครับ เพราะทุกคนน่าจะมีส่วนในการรับผิดชอบต่อสังคมของเรา คิดว่าสามารถนำเรื่องต่างๆ ที่ได้รับฟังไปสอนได้ วิทยาลัยเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการ คุณธรรมขั้นพื้นฐาน 8 ประการ รวมถึงถ้าเรานำ CSR ไปใช้ เรามั่นใจว่าเด็กที่จบไปจะมีประสิทธิภาพ การศึกษาสมัยใหม่เราเน้นเกี่ยวกับการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่ด้วย”

การอบรมจบลงด้วยการแจกเสื้อที่ระลึกอย่างสนุกสนาน และหลังจากที่ผู้เข้าอบรมได้แยกย้ายกันไปแล้ว ผมได้พยายามที่จะถ่ายรูป “เขาหัวแตก” แต่มันค่อนข้างไกลถ้าจับภาพจากกล้องถ่ายรูป จึงไม่สามารถเก็บภาพและมุมสวยๆ มาได้ ได้แต่ยืนดู (T-T) ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป ฝนก็เริ่มตกลงมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงกระนั้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเราที่จะเดินทาง แต่แล้วผมก็หิวขึ้นมา พี่ๆก็คัดค้านกันใหญ่ พี่คนขับรถก็เป็นไปกับเขาด้วย โถ่...สงสารตัวเองมาคราวนี้ผมโดนรุมตลอด หาว่าอีกสักพักก็จะแวะกินข้าวแล้ว พอลงไปซื้อเท่านั้นละ ซื้อของกินมาเยอะกว่าผมอีก....ไม่รู้จะทรงอำนาจกันไปถึงไหน ฮ่าๆ
การแหย่กันล้อกันเล่น ก็เป็นการแสดงถึงความห่วงใยอย่างหนึ่ง สำหรับทุกๆ ท่านเองก็เช่นกัน เวลามีใครเข้ามาวุ่นวายกับเราก็อย่าไปรำคาญนะครับ เพราะเค้าอาจจะหวังดีกับเราอย่างที่สุดก็เป็นได้ ทุกๆ อย่างขึ้นอยู่กับจิตใจที่เยือกเย็น และมุมมองที่ดี จะทำให้ทุกอย่าง ส.บ.ม. สบายมาก! สำหรับภารกิจของเราในจังหวัดพัทลุงก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีอะไรที่ต้องเสี่ยงภัยเกิดขึ้นครับ ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพตัวเองด้วย สวัสดีครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น